สถานที่ท่องเที่ยวในกำแพงเพชร

สถานที่ท่องเที่ยวกำแพงเพชร

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวกำแพงเพชร

อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ทางเข้าตั้งอยู่นอกเมืองกำแพงเพชรไปประมาณ 5 กิโลเมตร ตามถนนสายกำแพงเพชร - พรานกระต่าย แล้วเลี้ยวซ้ายตรงกิโลเมตรที่ 360 อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร แบ่งออกเป็นโบราณสถานฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง ซึ่งใช้วัสดุก่อสร้างที่แตกต่างกัน ด้านตะวันออกของแม่น้ำปิงเป็นที่ตั้งเมืองกำแพงเพชร โบราณสถานจะสร้างด้วยศิลาแลงและมีขนาดใหญ่ ส่วนโบราณสถานฝั่งตะวันตกคือเมืองนครชุม ก่อสร้างด้วยอิฐและมีขนาดเล็ก แต่รูปแบบศิลปะที่ปรากฏมีลักษณะร่วมสมัยระหว่างสุโขทัยและอยุธยา นอกจากนี้ยังมีโบราณสถานนอกเมืองกำแพงเพชร หรือเขตอรัญญิก ซึ่งเป็นที่อยู่ของสงฆ์ที่มุ่งในการปฏิบัติวิปัสสนาธรรม อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ระยะทาง 2 กิโลเมตร อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรได้รับการประกาศให้เป็น “มรดกโลก” ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2534 ผู้สนใจเข้าชมได้ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น ค่าเข้าชมชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 40 บาท สำหรับผู้ที่จะนำรถเข้าชมในบริเวณอุทยานจะต้องเสียค่าผ่านประตูคันละ 50 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร 0 5571 1921
สถานที่น่าสนใจภายในเขตอุทยานฯ
วัดพระแก้ว ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกำแพงเพชร เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโบราณสถานมรดกโลกในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เป็นวัดที่สำคัญอยู่ติดกับบริเวณวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือวัดมหาธาตุกลางเมืองสุโขทัย ภายในบริเวณวัดประกอบด้วยเจดีย์ประธานที่ฐานมีสิงห์ล้อม เจดีย์ทรงกลมที่ฐานมีช้างรอบ วิหาร มณฑป อุโบสถ และเจดีย์ราย ทั้งหมดล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลงเป็นแท่ง ๆ โดยรอบ
วัดพระธาตุ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของวัดพระแก้ว มีพระเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมเป็นประธาน ล้อมรอบด้วยระเบียบคดที่เชื่อมต่อกับวิหารด้านทิศตะวันออก ที่สองข้างวิหารมีเจดีย์รายอยู่ข้างละ 1 องค์ มีกำแพงแก้วล้อมรอบ
สระมน เป็นสระรูปสี่เหลี่ยมกว้างประมาณ 16 เมตร รอบสระมีคันดินคูน้ำล้อมรอบ จากการขุดค้นที่บริเวณนี้พบเศษกระเบื้องมุงหลังคา เครื่องมือเครื่องใช้และเครื่องประดับ
กำแพงเมืองกำแพงเพชร เป็นกำแพงชั้นเดียวสร้างเป็นเชิงเทินมี 2 ตอน ตอนล่างเป็นมูลดินสูงขึ้นไป 3-4 เมตร ตอนบนก่อด้วยศิลาแลงเป็นเชิงเทินมีใบเสมาและเจาะตรงใบเสมาไว้สำหรับมองข้าศึก
วัดพระบรมธาตุ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนครชุม เป็นเจดีย์ที่เจ้าพระยาลิไทเสด็จมาสถาปนาและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้เมื่อ พ.ศ. 1900 เดิมเป็นเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ 3 องค์ ตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน ต่อมาพ่อค้าไม้ชาวกะเหรี่ยงได้ปฏิสังขรณ์เป็นเจดีย์แบบพม่าดังที่ปรากฏเมื่อ 80 –90 ปีมาแล้ว
วัดซุ้มกอ เป็นวัดขนาดเล็กอยู่ทางทิศใต้ของเมืองนครชุมเจดีย์ ประธานเป็นเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยม มีองค์ระฆังแบบลังกา วัดนี้เคยขุดพบพระเครื่อง “ซุ้มกอ” เป็นจำนวนมาก ด้านหน้าของเจดีย์ประธานมีวิหารเล็ก ๆ 1 หลัง
วัดพระบรมธาตุเจดียาราม มีเจดีย์แบบพม่า 1 องค์ สันนิษฐานว่าเดิมคงเป็นเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ อย่างศิลปะสุโขทัย แต่ปัจจุบันเป็นเจดีย์แบบพม่าเนื่องจากเศรษฐีพม่าผู้หนึ่งได้มาบูรณะเมื่อประมาณ 100 ปี มาแล้ว ในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปสัมฤทธิ์สมัยสุโขทัยและอยุธยามากมาย
กำแพงป้อมทุ่งเศรษฐี ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน ก่อนถึงตัวเมืองกำแพงเพชรเล็กน้อย ลักษณะเป็นป้อมปราการที่ก่อด้วยศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมสูงประมาณ 6 เมตร มีประตูทางเข้าตรงกลางป้อม 4 ด้าน ด้านในของป้อมมีเชิงเทิน ตรงฐานป้อมใต้เชิงเทินเป็นห้องมีทางเดินติดต่อกันได้ ตรงมุมมีป้อมยื่นออก 4 มุม มีรูอยู่ติดกับพื้น แต่ด้านทิศเหนือถูกรื้อออกเสียด้านหนึ่ง
วัดเจดีย์กลางทุ่ง ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสถานีขนส่งกำแพงเพชร เป็นวัดที่ตั้งอยู่นอกเมืองนครชุมทางทิศใต้ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เจดีย์ประธานทรงดอกบัวตูม มีการจัดผังวัดแบบ อุทกสีมา คือใช้แนวคูน้ำโดยรอบเพื่อแสดงขอบเขตของวัด ซึ่งเป็นผังที่นิยมมากในสมัยสุโขทัย
วัดหนองพิกุล เป็นวัดสำคัญของเมืองนครชุม ส่วนหลังคาไม่ปรากฎให้เห็น แต่ผนังที่เหลืออยู่ในสภาพสมบูรณ์ก่อด้วยอิฐฉาบปูนมีลวดลายประดับ เป็นโบราณสถานที่ได้รับอิทธิพลจากลังกา
วัดพระนอน มีกำแพงศิลาแลงปักล้อมรอบวัดไว้ทั้ง 4 ด้าน ด้านหน้าวัดมีบ่อน้ำสี่เหลี่ยม มีห้องอาบน้ำและศาลาน้ำ ฐานและเสาเป็นศิลาแลงมีทางเท้าปูด้วยศิลาแลง มีโบสถ์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้า ด้านหลังเป็นวิหารพระนอน ก่อสร้างด้วยเสาศิลาแลงขนาดใหญ่ หลักฐานทางประติมากรรมที่พบ คือ ใบเสมารูปเทพพนม พาลีกับทรพี สันนิษฐานว่าสลักขึ้นในสมัยอยุธยา
วัดพระสี่อิริยาบถ หรือ วัดพระยืน วัดนี้มีบ่อน้ำและที่อาบน้ำอยู่หน้าวัดเช่นเดียวกับวัดพระนอน กำแพงเป็นศิลาแลงปักตั้งล้อม 4 ด้าน ด้านหน้าวัดมีวิหารขนาดใหญ่ยกฐานสูง 2 เมตร มีเสาลูกกรงเป็นศิลาแลงเหลี่ยมและมีทับหลังบนมุขหน้าวิหาร สิ่งสำคัญของวัดได้แก่ มณฑปจตุรมุข แต่ละทิศประดิษฐานพระพุทธรูป 4 ปาง คือ เดิน นั่ง ยืน และนอน อยู่โดยรอบทั้ง 4 ทิศตามลำดับ ปัจจุบันเหลือเพียงพระยืนขนาดใหญ่ที่สวยงาม พระพักตร์เป็นลักษณะพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยแบบกำแพงเพชรคือ พระนลาฏกว้าง และพระหนุเสี้ยม
วัดพระสิงห์ ถัดจากวัดพระสี่อิริยาบถไปทางทิศเหนือประมาณ 100 เมตร สันนิษฐานว่าใช้เวลาสร้างถึง 2 สมัย คือ สมัยสุโขทัยและสมัยอยุธยา ผังรวมของวัดแบ่งเขตพุทธาวาสให้อยู่ในกลุ่มกลางล้อมรอบด้วยเขตสังฆาวาสหรือกุฏิสงฆ์ โดยมีพระเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมมีซุ้มทั้ง 4 ด้าน เป็นประธาน ด้านหน้าเป็นพระอุโบสถขนาดใหญ่ ยกฐานประทักษิณสูง บนฐานประทักษิณนี้ประดิษฐานพัทธสีมาไว้ทั้งแปดทิศ มุขด้านหน้าของฐานประทักษิณมีรูปสิงห์รูปนาคประดับ
วัดช้างรอบ เป็นวัดที่สร้างบนยอดเนิน มีพระเจดีย์ทรงลังกา ซึ่งยอดหักพังหมดแล้ว มีบันไดทางขึ้นทั้งสี่ด้าน ที่ชั้นฐานลานประทักษิณประดับด้วยช้างทรงเครื่องครึ่งตัว จำนวน 68 เชือก ระหว่างช้างแต่ละเชือกมีภาพปั้นรูปลายพรรณพฤกษาในพระพุทธศาสนา เช่น ต้นโพธิ์ และต้นสาละ เป็นต้น
วัดอาวาสใหญ่ มีเจดีย์แปดเหลี่ยมเป็นประธาน ด้านหน้าเป็นวิหารฐานสูงมีทางขึ้น 3 ด้าน มีเจดีย์รายรอบ ด้านหน้าสุดนอกเขตกำแพงแก้วมีบ่อน้ำใหญ่ เรียก “บ่อสามแสน” เพราะน้ำในบ่อนี้ไม่เคยแห้ง
ที่ทำการหน่วยศิลปากรประจำจังหวัดกำแพงเพชร ตั้งอยู่เลยวัดพระแก้วไปตามเส้นทางกำแพงเพชร - พรานกระต่าย มีทางแยกเข้าไปทางซ้ายมือ ตรงประตูสะพานโคมประมาณ 300 เมตร เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการบูรณะขุดแต่งอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ภายในที่ทำการหน่วยจะมีแผนผังอุทยานฯ ที่สามารถทำให้เข้าใจการแบ่งส่วนพื้นที่โบราณสถานได้อย่างชัดเจน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร ตั้งอยู่ที่ถนนปิ่นดำริห์ เป็นที่แสดงโบราณวัตถุและศิลปวัตถุสมัยต่าง ๆ อาทิเช่น ศิลปทวารวดี ศิลปลพบุรี และศิลปรัตนโกสินทร์ โบราณวัตถุส่วนมากเป็นลวดลายปูนปั้นและลวดลายดินเผา เศียรพระพุทธรูป เครื่องสังคโลก ปูนปั้นรูปยักษ์เทวดา และมนุษย์ซึ่งใช้ประดับฐานเจดีย์ หรือติดตั้งวิหาร นอกจากนั้นยังมีเทวรูปพระอิศวรสัมฤทธิ์ ที่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ถูกลอบตัดเศียรและพระหัตถ์ เมื่อ พ.ศ. 2429 และได้ถูกซ่อมแซมให้คืนดีในภายหลัง ผู้สนใจสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฯ ได้ในเวลาราชการทุกวัน เว้นวันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ค่าเข้าชมชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท สอบถามรายละเอียด โทร. 0 5571 1570
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดกำแพงเพชรเฉลิมพระเกียรติ ตั้งอยู่เลขที่ 104/5 ถนนปิ่นดำริห์ อยู่ติดกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร ภายในเขตกำแพงเมืองเก่าของจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในพระราชพิธีกาญจนาภิเษก ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี สร้างด้วยไม้สักเป็นเรือนไทยหมู่แบบเรือนไทยภาคกลาง พิพิธภัณฑสถานจังหวัดกำแพงเพชรฯ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือส่วนของประวัติศาสตร์เมือง ส่วนของมรดกดีเด่น เช่น หินอ่อน แหล่งน้ำมัน และส่วนของชาติพันธุ์วิทยา แสดงถึงชนเผ่าต่าง ๆ เช่น มูเซอ กะเหรี่ยง ลีซอ และการละเล่นพื้นบ้าน เป็นต้น มีห้องโสตทัศนูปกรณ์ และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ โดยใช้ระบบมัลติมีเดีย มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมพื้นเมืองของจังหวัด ผลิตภัณฑ์ชาวเขาและกลุ่มแม่บ้าน นอกจากนั้นมีศูนย์จริยศึกษา เพื่อฝึกหัดอบรมงานศิลปประดิษฐ์สำหรับเยาวชนในวัยเรียน ซึ่งจะเป็นนักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ ในจังหวัด โดยจะสอนเกี่ยวกับพุทธศาสนา มรรยาท การแกะสลัก ร้อยมาลัย ซึ่งจะเปิดสอนเฉพาะวันอาทิตย์ พิพิธภัณฑสถานจังหวัดกำแพงเพชรฯ เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 09.00-16.30 น. ค่าบัตรผ่านประตู 10 บาท ค่าเข้าชมมัลติมีเดีย 250 บาท/คณะ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 5572 2341-2
ศาลพระอิศวร ตั้งอยู่ด้านหลังศาลจังหวัด มีฐานก่อด้วยศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายกพื้นสูง 1.50 เมตร บนฐานชุกชีมีเทวรูปพระอิศวรสัมฤทธิ์ที่จำลองขึ้น เทวรูปพระอิศวรองค์เดิมปัจจุบันตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร เทวรูปองค์เดิมนี้ในสมัยรัชกาลที่ 5 นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันได้ลักลอบตัดพระเศียรและพระหัตถ์ ส่งลงเรือมายังกรุงเทพฯ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ขอพระเศียรและพระหัตถ์คืน และทรงประทานพระอิศวรจำลองให้แทน ซึ่งปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์กรุงเบอร์ลิน
สิริจิตอุทยาน เป็นสวนสาธารณะเอนกประสงค์ริมฝั่งแม่น้ำปิง มีเนื้อที่ 170 ไร่ ประกอบด้วยสนามเด็กเล่น สวนสุขภาพ ศาลาพักผ่อน สวนไม้ดอกไม้ประดับปลูก และลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ซึ่งสร้างเป็นเรือนไทย มีการแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบไทยประจำท้องถิ่นที่ลานเทวีกลางแจ้งและมีการจัดจำหน่ายสินค้าโครงการ “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” ของชุมชนในเขตเทศบาลเมืองอีกด้วย
หอไตรวัดคูยาง ตั้งอยู่ที่ถนนวิจิตร เขตเทศบาลเมือง เป็นสถาปัตยกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ หอไตรนี้สร้างไว้กลางน้ำและมีใต้ถุนสูงเพื่อป้องกันปลวก แมลงสาบ และหนู เข้าไปกัดทำลายพระไตรปิฎก หนังสือ และคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา
หลวงพ่ออุโมงค์ วัดสว่างอารมณ์ อยู่ในตำบลนครชุม อำเภอเมือง เป็นพระพุทธรูปแบบเชียงแสนขนาดใหญ่ หน้าตักกว้าง 2 เมตร สูงเกือบ 3 เมตร มีพุทธลักษณะที่งดงามยิ่ง เป็นหลักฐานสำคัญประกอบข้อเท็จจริงถึงความสัมพันธ์ระหว่างกำแพงเพชรและหัวเมืองฝ่ายเหนือ
บ้านไม้สักเก่าแก่ ตั้งอยู่บนถนนเทศา เขตเทศบาลเมือง เป็นมรดกตกทอดของคหบดีชาวกำแพงกำแพงเพชร มีลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง เสาเรือนทุกต้นใช้ไม้สักต้นเดียวยาวตลอด และหน้ามุขประดับด้วยไม้ฉลุมีความสวยงามมาก
ศูนย์แปรรูปผลผลิตการเกษตรบ้านบ่อสามแสน หมู่ 6 บ้านบ่อสามแสน ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 5 กิโลเมตร บนทางหลวงสายกำแพงเพชร-พรานกระต่าย ศูนย์แห่งนี้ผลิตและจำหน่ายสินค้าแปรรูปทางการเกษตรหลายชนิด ที่ขึ้นชื่อที่สุดได้แก่ กระยาสารท ข้าวแต๋น นางเล็ด ขนมดอกจอก มันรังนก มีความเป็นเอกลักษณ์และรสชาติความอร่อยแบบไทย ๆ
บ่อน้ำพุร้อนพระร่วง (บึงสาป) หมู่ 3 ตำบลลานดอกไม้ ห่างจากตัวเมือง 13 กิโลเมตร บนทางหลวงหมายเลข 101 สายกำแพงเพชร-พรานกระต่าย แยกซ้ายเข้าไปประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นน้ำพุร้อนเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ผุดขึ้นมาจากใต้ดิน จำนวน 5 จุด อุณหภูมิประมาณ 40-65 องศาเซลเซียส จากการตรวจสอบของกระทรวงสาธารณสุขปรากฏว่าไม่มีสารปนเปื้อนและเชื้อโรคอันตรายเกินมาตรฐานแต่อย่างใด มีสถานที่ให้บริการอาบน้ำแร่ในบริเวณน้ำพุร้อนแห่งนี้ด้วย
เมืองไตรตรึงษ์ ตั้งอยู่ที่ตำบลไตรตรึงษ์ บนทางหลวงหมายเลข 1 สายกำแพงเพชร-นครสวรรค์ ห่างจากตัวเมือง 18 กิโลเมตร เป็นเมืองเก่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยสิริกษัตริย์เชียงราย ซึ่งได้หนีข้าศึกจากเชียงรายลงมาสร้างเมืองนี้ขึ้น เมื่อ พ.ศ. 1542 ปัจจุบันโบราณสถานต่างๆ ทรุดโทรมลงมาก เหลือเพียงซากเจดีย์และเชิงเทินเท่านั้น
ตลาดกล้วยไข่ ตั้งอยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 สายกำแพงเพชร-นครสวรรค์ ตรงกิโลเมตรที่ 343 มีเพิงขายกล้วยไข่ทั้งดิบและสุก กล้วยฉาบ และสินค้าพื้นเมืองอื่น ๆ ตั้งอยู่เรียงรายเป็นระยะทางยาวประมาณ 200 เมตร

อำเภอคลองขลุง
บริษัท เบียร์ไทย (1991) จำกัด (มหาชน) เลขที่ 349 ถนนพหลโยธิน หมู่ 2 ตำบลแม่ลาด มีกำลังการผลิตเบียร์ 500 ล้านลิตร/ปี น้ำดื่ม 200 ล้านลิตร/ปี โซดา 100 ล้านลิตร/ปี โดยใช้วัตถุดิบประกอบด้วยมอลต์ประมาณ 66,430 ตัน/ปี ฮอบ 43 ตัน/ปี ข้าวเจ้า 33,845 ตัน/ปี ผู้สนใจเข้าชมขั้นตอนการผลิต เป็นหมู่คณะ ต้องติดต่อล่วงหน้า โทร 0 5572 8400

อำเภอลานกระบือ
แหล่งน้ำมันสิริกิติ์ เป็นแหล่งขุดเจาะน้ำมันดิบและแก๊สธรรมชาติ ซึ่งบริษัท ปตท. สผ. จำกัด (มหาชน) ได้รับสัมปทานขุดเจาะน้ำมันดิบมาตั้งแต่ปี 2525 จนถึงปัจจุบัน มีกำลังการผลิตเฉลี่ยวันละ 20,000 บาร์เรล ภายในมีอาคารนิทรรศการ “ธารเพชร” แสดงขั้นตอนการขุดเจาะน้ำมัน ผู้สนใจเข้าชมควรติดต่อบริษัทฯ ล่วงหน้าโทร 0 5573 1149-50

อำเภอขาณุวรลักษบุรี
บ้านปางมะนาว (โครงการคลองลาน 2) หมู่ 11 ตำบลปางมะค่า ห่างจากศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดกำแพงเพชร 25 กิโลเมตร ประกอบด้วยชนเผ่าที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมต่างจากคนพื้นราบมีพื้นที่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดบ้านพักแบบโฮมสเตย์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของหมู่บ้านชาวเขา การแสดงของชาวเขาเผ่ามูเซอ และมีจัดนำเที่ยวแบบทัวร์ป่า

อำเภอโกสัมพี
อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า ห่างจากตัวเมืองกำแพงเพชรระยะทางประมาณ 43 กิโลเมตร เป็นผืนป่าที่สมบูรณ์ มีเนื้อที่ 466,875 ไร่ มีไม้สักที่ขึ้นเองตามธรรมชาติอย่างหนาแน่น มีน้ำตกที่สวยงามน่าท่องเที่ยวหลายแห่ง ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2533 นอกจากนั้นใกล้ ๆ อุทยานฯ ยังมีหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง ซึ่งยังมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบเดิม มีสถานที่น่าสนใจ อาทิ น้ำตกคลองวังเจ้า ห่างจากที่ทำการ 1.5 กิโลเมตร สูง 20 เมตรน้ำตกคลองสมอกล้วย มี 4 ชั้น ห่างจากที่ทำการ 1.5 กิโลเมตร มีน้ำไหลตลอดปีจุดชมวิวผาตั้ง ห่างจากที่ทำการ 3 กิโลเมตร อยู่ริมทางที่จะไปหมู่บ้านโละโคะ ชมพระอาทิตย์ลับทิวเขาได้ โป่งแก๊สธรรมชาติ มี 2 แห่ง คือทางไปน้ำตกคลองโป่ง และน้ำตกเต่าดำ ประมาณ 1,500 เมตร น้ำตกคลองโป่ง มี 4 ชั้น เป็นน้ำตกหินชนวน สูง 100 เมตร พบกล้วยไม้ประเภทลิ้นมังกรบริเวณน้ำตกได้ การเดินทางต้องค้างคืน 1 คืน ส่วนน้ำตกเต่าดำ มี 2 ชั้น เป็นน้ำตกใหญ่ที่น้ำไหลดิ่งลงมาจากหน้าผา แต่ละชั้นสูง 200 เมตร ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติฯ 34 กิโลเมตร ทางไปน้ำตกถนนไม่ดีต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ เส้นทางเดินเท้าศึกษาธรรมชาติ “สวนไผ่” ระยะทาง 2 กิโลเมตร มีพันธุ์ไผ่กว่า 20 ชนิดให้ศึกษาค้นคว้า มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ และร้านอาหาร ไว้บริการนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูลได้ที่ อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า ตู้ ป.ณ. 69 ปณจ. กำแพงเพชร 62000 โทร. 0 55719318–9, 0 55719244
การเดินทาง จากกรุงเทพฯ ตามทางหลวงหมายเลข 1 ก่อนถึงตลาดวังเจ้า เลี้ยวซ้ายมือเข้าบ้านโละโคะ ประมาณ 36 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้าย เมื่อถึงสามแยกบ้านเด่นคาเลี้ยวซ้ายตามป้ายอุทยานฯ จะถึงบ้านโละโคะตรงเข้ามา 21 กิโลเมตร บริเวณวัดหนองแดนอีก 7 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ หรือนั่งรถโดยสารประจำทางที่จะไปจังหวัดตาก ลำปาง เชียงใหม่ ลงที่ตลาดวังเจ้า แล้วต่อรถหนองแดน หรือมอเตอร์ไซค์ก็สามารถมาอุทยานฯ ได้เช่นเดียวกัน

อำเภอคลองลาน
อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองลาน ตั้งอยู่ในเขตตำบลคลองลานพัฒนา ตำบลคลองน้ำไหล และตำบลโป่งน้ำร้อน มีเนื้อที่ 187,500 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2525 มีสภาพป่าที่สมบูรณ์ ประกอบด้วยป่าเต็งรัง ป่าดงดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ สัตว์ป่านานาชนิดไม่น้อยกว่า 265 ชนิด 81 วงศ์ เป็นป่าต้นน้ำของลำน้ำหลายสาย เช่น คลองขลุง คลองสวนหมาก และคลองลาน ไหลรวมกันสู่แม่น้ำปิง ช่วงเวลาที่เหมาะจะเดินทางมาท่องเที่ยวคือเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์
สถานที่น่าสนใจภายในอุทยานฯ
น้ำตกคลองลาน ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 200 เมตร เกิดจากเทือกเขาคลองลาน เขาคลองขลุง และเขาคลองสวนหมาก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ไหลลงมาจากหน้าผาสูง 100 เมตร กว้าง 40 เมตร และด้านล่างของน้ำตกเป็นแหล่งน้ำที่ลงเล่นน้ำได้ อยู่ห่างจากตลาดคลองลาน 4 กิโลเมตร
น้ำตกคลองน้ำไหล หรือ น้ำตกปางควาย อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 25 กิโลเมตร จากทางหลวงหมายเลข 1117 ตรงหลักกิโลเมตรที่ 35-36 จะมีป้ายบอกทางเข้าอีก 10 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดกลาง มี9 ชั้น ไหลจากหน้าผาสูง 60 เมตร บริเวณพื้นล่างมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่สามารถลงเล่นน้ำได้ มีน้ำไหลตลอดปี
แก่งเกาะร้อย สามารถเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 1117 เมื่อถึงสามแยกโป่งน้ำร้อนจะมีทางลาดยางแยกเข้าไปประมาณ 16 กิโลเมตร แก่งเกาะร้อยมีลักษณะเป็นลำธารจากคลองสวนหมากไหลผ่านซอกแก่งหินตามลำห้วย มองดูคล้ายเกาะเล็ก ๆ อยู่กลางลำน้ำ จากหน่วยพิทักษ์คลองสวนหมาก จะต้องนั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อเข้าไปตามถนนดินลูกรัง ประมาณ 5 กิโลเมตร จะถึงจุดลงแพ คือ ตาดผาแดง จากนั้นจะล่องแพผ่านผาชมจันทร์ ตาดช่องแคบ ที่สองข้างทางเป็นโขดหินโอบล้อมอยู่ น้ำค่อนข้างแรง จากนั้นจะล่องผ่านแก่งเกาะร้อย บริเวณนี้น้ำจะแรงและมีแก่งมาก ให้ความตื่นเต้นแก่นักล่องแก่งได้พอสมควร ใช้เวลาในการล่องประมาณ 1.5 ชั่วโมง สำหรับความยากในการล่องอยู่ระดับ 2-3 นอกจากนั้นใกล้ ๆ หน่วยพิทักษ์คลองสวนหมากยังมีถ้ำไทรหายโศก ห่างจากหน่วยพิทักษ์ฯ 2 กิโลเมตร ซึ่งอยู่บริเวณใต้ผาชมจันทร์ ในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยและค้างคาวจำนวนมากอาศัยอยู่ และถ้ำยาวสันติสุข ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่สวยงามและค้างคาวอาศัยอยู่เช่นเดียวกัน ทั้ง 2 ถ้ำ หากสนใจจะไปเที่ยวชม ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ฯ นำทางเข้าไปและต้องเตรียมไฟฉายไปเอง การล่องแก่งเกาะร้อย เวลาที่เหมาะจะล่องคือระหว่างเดือนสิงหาคม-มกราคม เป็นช่วงที่มีน้ำมาก จะทำให้การล่องแก่งมีความสนุกสนานมากขึ้น นอกจากนั้นบริเวณหน่วยพิทักษ์ฯ มีสถานที่กางเต็นท์สำหรับผู้ที่ต้องการจะสัมผัสกับธรรมชาติที่ยังไม่ค่อยมีผู้ใดเข้าไปสัมผัสมากนัก แต่ต้องนำเต็นท์และอุปกรณ์ในการทำอาหารไปเอง อุทยานแห่งชาติคลองลาน มีบ้านพัก 6 หลัง สำหรับผู้ที่ต้องการพักเต็นท์ต้องนำเต็นท์ไปเอง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติคลองลาน ตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร 65120 โทร. 0 55719304
การเดินทาง โดยรถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านจังหวัดนครสวรรค์ มาประมาณ 17 กิโลเมตร ถึงหนองเบนจะมีทางแยกซ้ายมือเข้าอำเภอลาดยาว จากนั้นใช้ทางหลวง 1072 ลาดยาว – คลองลาน ระยะทาง 102 กิโลเมตร ถึงสี่แยกตลาดคลองลานตรงไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ หรือจากตัวจังหวัดกำแพงเพชรใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถึงกิโลเมตรที่ 346 บ้านคลองแม่ลาย ใช้เส้นทางแยกขวาไปอำเภอคลองลาน ตามทางหลวง 1117 สายคลองลานอุ้มผาง ระยะทาง 46 กิโลเมตร ถึงสี่แยกตลาดคลองลาน แยกขวามือไปอุทยานฯ อีก 6 กิโลเมตร เป็นทางลาดยางตลอดสาย หรือนั่งรถโดยสารประจำทางจากสถานีขนส่งจังหวัด หรือรถสองแถวจากท่ารถถนนวิจิตร ใช้รถสายกำแพงเพชร-คลองลาน ลงที่สี่แยกตลาดคลองลานแล้วเหมารถสองแถวหรือมอเตอร์ไซด์ไปยังที่ทำการอุทยานฯ
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ มีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือจังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดนครสวรรค์ เป็นหนึ่งในผืนป่าตะวันตกที่มีพื้นที่ป่าสมบูรณ์มากที่สุดตั้งแต่จังหวัดตากจนถึงจังหวัดกาญจนบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 558,750 ไร่ หรือ 894 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ทิศเหนือของอุทยานฯติดกับอุทยานแห่งชาติคลองลาน ทิศใต้ติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี และทิศตะวันตกติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2530
ป่าส่วนใหญ่ของอุทยานฯประกอบด้วยป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบ และป่าเต็งรัง มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญและมีค่ามากมาย เช่น สัก ประดู่ มะค่าโมง ยางแดง เต็ง รัง เป็นตัน นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่าที่หายาก เช่น ช้างป่า กระทิง เสือ กวาง เก้ง หมี แมวลาย และนกต่าง ๆ มากกว่า 305 ชนิด จาก 53 วงศ์ ซึ่งนกบางชนิดพบเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย เช่น นกกระเต็นขาวดำใหญ่ นกเงือกคอแดง นกกางเขนดง นกโพระดกหูเขียว และนกพญาปากกว้างหางยาว เป็นต้น ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวมากที่สุดคือ ฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจภายในอุทยานฯ
แก่งผานางคอย อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 1,400 เมตร เป็นแก่งหินลำห้วยคลองขลุง จากบริเวณแก่งหินเดินขึ้นไปประมาณ 350 เมตร จะถึงน้ำตกผานางคอย เป็นน้ำตกเล็ก ๆ มี 4 ชั้น และบริเวณใกล้น้ำตกสามารถกางเต็นท์พักแรมได้ด้วย
จุดชมวิว กม. ที่ 81 จากที่ทำการอุทยานฯ ไปตามถนนคลองลาน-อุ้มผาง ประมาณ 16 กิโลเมตร จะถึงบริเวณหน้าผา เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของป่ารอบ ๆ ได้อย่างสวยงาม บริเวณนี้สามารถกางเต็นท์พักแรมได้
ช่องเย็น กม. ที่93 อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 28 กิโลเมตร เป็นจุดสูงสุดของถนนคลองลาน-อุ้มผาง สูง 1,340 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีสายลมพัดผ่านและหมอกปกคลุมอยู่เสมอ อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี และเป็นที่ดูพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงามอีกจุดหนึ่ง สภาพป่าทั่วไปเป็นป่าดิบเขามีกล้วยไม้หายาก เช่น สิงโตกลอกตา เฟิร์น มหาสดำ มีนกหายาก เช่น นกเงือกคอแดง นกภูหงอนพม่า นกพญาปากกว้างหางยาว และนกหัวขวานใหญ่หงอนเหลือง นกเหล่านี้จะพบเห็นได้บริเวณบ้านพัก บริเวณ “ช่องเย็น” มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการ แต่จะต้องเตรียมอุปกรณ์มาเอง คือ ผ้าพลาสติก เสื้อกันหนาว ตะเกียงหรือไฟฉาย เพราะไม่มีไฟฟ้าหรือเตาแก๊สสำหรับการปรุงอาหาร โลชั่นกันแมลง และถุงสำหรับนำขยะลงไปทิ้ง เพราะช่องเย็นไม่สามารถกำจัดขยะได้ เส้นทางขึ้น-ลง “ช่องเย็น” เป็นทางเลียบหน้าผาทางแคบรถไม่สามารถสวนกันได้ ทางอุทยานฯ จึงได้กำหนดเวลาขึ้น-ลง คือ เวลาขึ้น 05.00-06.00 น. 09.00-10.00 น. และ 13.00–14.00 น. เวลาลง 07.00-08.00 น. 11.00-12.00 น. และ 15.00-16.00 น.
ยอดเขาโมโกจู เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และสูงที่สุดในผืนป่าตะวันตก ห่างจากอุทยานฯ ประมาณ 38 กิโลเมตร เป็นยอดเขาที่นักนิยมการท่องเที่ยวแบบเดินป่า ปีนเขา ต้องการที่จะไปเยือนสักครั้ง ด้วยความสูง 1,964 เมตร คำว่า “โมโกจู” เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า เหมือนฝนจะตก เนื่องจากบนยอดเขามักถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกและมีอากาศหนาวเย็นตลอดเวลา ผู้สนใจจะไปสัมผัสยอดเขาโมโกจู ต้องเตรียมความพร้อมของร่างกายเพราะจะต้องขึ้นเขาที่มีความลาดชันไม่ต่ำกว่า 60 องศา ใช้เวลาในการเดินทางไป-กลับ 5 วัน และต้องพักแรมในป่าตามจุดที่กำหนด นอกจากนั้นควรศึกษาสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ และติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางก่อนจากทางอุทยานฯ ก่อนตัดสินใจจะไปสัมผัส “โมโกจู” ช่วงที่จะเปิดให้เดินขึ้นยอดเขาโมโกจู คือเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์
น้ำตกแม่กระสา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มี9 ชั้น สูง900 เมตร อยู่ห่างจากอุทยานฯ ประมาณ 18 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินเท้าไป-กลับ 3-4 วัน
น้ำตกแม่รีวา อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 21 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่สวยงามมาก มี 5 ชั้น รถเข้าไม่ถึงเช่นเดียวกันต้องใช้เวลาในการเดินทางไป-กลับ 2 วัน
น้ำตกแม่กี เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับน้ำตกแม่รีวาและน้ำตกแม่กระสา มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาถนนธงชัย การเข้าไปยังน้ำตกต้องเดินเท้าเวลาไป-กลับ 3-4 วัน
น้ำตกนางนวลและน้ำตกเสือโคร่ง อยู่บริเวณ กม.ที่99 ของถนนคลองลาน-อุ้มผาง น้ำตกนางนวลต้องไต่เขาลงไปประมาณ 200 เมตร สำหรับน้ำตกเสือโคร่ง ต้องเดินไป 1 กิโลเมตร การเดินทางเข้าไปน้ำตกทั้งสองแห่งต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้ง
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ มีแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องเดินป่าระยะไกลซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ดังนั้นเมื่อถึงฤดูกาลท่องเที่ยว ทางอุทยานฯ จะจัดทำตารางกำหนดเวลาเดินป่าระยะไกลประจำปีซึ่งนักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามกติกาการเดินทางอย่างเคร่งครัด และควรติดต่อจองเวลาการเดินทางและขอคำแนะนำในการเตรียมตัวและอุปกรณ์จากเจ้าหน้าที่อุทยานให้พร้อม ทางอุทยานฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว แต่ต้องนำเต็นท์มาเอง สอบถามข้อมูลได้ที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ กิโลเมตรที่ 65 ถนนคลองลาน-อุ้มผาง กิโลเมตรที่ 65 อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร 62180 โทร. 0 55719010-1 หรือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เขตบางเขน กรุงเทพฯ โทร. 0 2579 5734, 0 2579 7223 หรือ www.nationalpark.go.th หรือ ตู้ ป.ณ. 29 อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร 62180
การเดินทาง จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 เลี้ยวซ้าย กม.ที่ 338 เข้าทางหลวงหมายเลข 1117 สายคลองลาน-อุ้มผาง เมื่อถึงสี่แยกเข้าคลองลานให้ตรงไปอีก 19 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ แต่หากใช้ทางหลวง 1072 ลาดยาว-คลองลาน เมื่อถึงสี่แยกตลาดคลองลานแล้วให้เลี้ยวซ้ายไปที่ทำการอุทยานฯ หรือ นั่งรถโดยสารปรับอากาศ กรุงเทพฯ- คลองลาน ลงที่ตลาดคลองลาน แล้วเหมารถสองแถวหรือรถมอเตอร์ไซด์ไปอุทยานฯ ได้เช่นเดียวกัน

อำเภอพรานกระต่าย
อ่างเก็บน้ำคลองน้ำแดงเพื่อการเกษตร หมู่ 11 บ้านวังตะกู เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 1,500 ไร่ มีน้ำตลอดทั้งปี เป็นแหล่งตกปลา ปลูกพืชไร่ มีสวนมะขามหวาน และสวนส้มเขียวหวานอยู่ใกล้ ๆ สภาพภูมิประเทศสวยงาม มีเนินเขาล้อมรอบ

Source : tourismthailand.org