สถานที่ท่องเที่ยวตราด

สถานที่ท่องเที่ยวตราด

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวตราด

• วัดบุปผาราม หรือเรียกอีกชื่อว่า วัดปลายคลอง ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 บ้านปลายคลอง ถนนพัฒนาการปลายคลอง ตำบล วังกระแจะ เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดในจังหวัด สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา ราวรัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. 2191) ท่านพระครูคุณสารพิสุทธิ์ (หลวงพ่อโห) อดีตเจ้าอาวาสในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้บูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะถาวรวัตถุในวัด จวบจนปัจจุบันท่านพระครูสุวรรณสารวิบูลพร้อมทั้งชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ และดูแลภูมิทัศน์โดยรอบวัดให้สะอาดเรียบร้อย วัดนี้จึงเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติศาสนกิจ สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่
• พิพิธภัณฑ์ เป็นแหล่งรวบรวมโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าไว้มากมายโดยเฉพาะพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นมงคลสูงสุดคู่บ้านเมือง มีพระพุทธรูปทองบุเงิน พระพุทธรูปปางต่าง ๆ รวมทั้งเครื่องถ้วยจีน เครื่องถ้วยยุโรป กลองมโหรทึก แสดงให้เห็นถึงการเดินทางแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างเมืองท่าชายฝั่งตะวันออก กับเมืองท่าโพ้นทะเลในแถบเอเชียอาคเนย์ข้ามไปไกลถึงซีกโลกตะวันตก พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
• ภาพจิตรกรรม ฝาผนังในโบสถ์ และวิหารพระพุทธไสยาสน์เขียนขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์เป็นฝีมือช่างท้องถิ่นแต่ล้วนแล้วผสมกลมกลืนด้วยศิลปจีน และวรรณคดีจีน แสดงให้เห็นว่าวัดแห่งนี้อาจได้รับการอุปถัมภ์จากชาวจีนที่มาค้าขายแถบชายฝั่งทะเลตะวันออก (พ่อค้าชาวจีนอพยพทางเรือมาที่เมืองตราดตั้งแต่สมัยอยุธยา บ้างอพยพจากอยุธยา กรุงเทพฯ เวียดนาม บ้างก็มาจากมาเลเซีย สิงคโปร์)
นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่น่าชมภายในวัด คือ หมู่กุฏิเล็กทรงไทย ที่สร้างได้ถูกต้องตามพระวินัยบัญญัติมีขนาดพอแค่ภิกษุอยู่ได้รูปเดียวเท่านั้น คนในท้องถิ่นเมื่อให้ลูกหลานบวชเรียนที่วัดก็จะสร้างกุฏิให้พร้อม เสร็จแล้วช่วยกันหามแห่มาที่วัดในวันทำพิธีบวช หอสวดมนต์ เป็นศาลาไม้ยกพื้นสูง หลังคามุงกระเบื้องเคลือบชั้นเดียว ชายคาปีกนก หน้าบันไม้จำหลักปิดทองลายเทพนม ฝาประกน เสาไม้แปดเหลี่ยม เจดีย์ เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ก่อด้วยศิลาแลงฉาบปูน รูปสี่เหลี่ยมจตุรัส วิหารฝากระดาน ก่ออิฐ ถือปูน รูปเรือสำเภา เช่นเดียวกับฐานโบสถ์วิหาร สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย หลังคาชั้นเดียว ฝาผนังไม้ เป็นต้น สอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3951 2636
• การเดินทาง จากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) ตรงข้ามโรงพยาบาลตราด เลี้ยวแยกซ้ายเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร
• วัดโยธานิมิตร หรือเรียกอีกชื่อว่า วัดโบสถ์ ตั้งอยู่ที่ถนนเทศบาล 4 ตรงสามแยกใกล้กับศาลหลักเมือง เป็นวัดหลวงเพียงแห่งเดียวในจังหวัดตราด สร้างขึ้นเมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินมารวบรวมไพร่พลที่เมืองตราด หากเสร็จสมบูรณ์ในสมัย รัชกาลที่ 3 วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของบรรดาข้าราชการตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 จึงได้เปลี่ยนมาทำพิธีที่วัดไผ่ล้อม ในส่วนของพระอุโบสถเป็นศิลปะแบบอยุธยา มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก ปัจจุบันกลายเป็นพระวิหาร เรียกว่า วิหารโยธานิมิตร และเป็นที่เก็บโบราณวัตถุ อาทิ หนังสือใบลาน คัมภีร์เทศน์ และรอยพระพุทธบาท พระวิหารนี้ได้รับการบูรณะครั้งล่าสุดเมื่อ พ.ศ. 2518 โดยซ่อมแซมหลังคา เสา ประตู หน้าต่าง ฝาผนังภายนอกที่ชำรุด แต่ยังคงรักษารูปทรงเดิมไว้
• ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ตั้งอยู่บนถนนหลักเมือง ใกล้วัดโยธานิมิตร ศาลนี้มีลักษณะแปลกจากศาลหลักเมืองอื่น ๆ คือ ตัวอาคารก่อสร้างในลักษณะเป็นเก๋งจีน เมื่อครั้งมารวบรวมรี้พลกอบกู้เอกราชที่ตราด สมเด็จพระเจ้าตากสินโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นตามความเชื่อแบบจีนเพื่อให้ปกป้องคุ้มครองเมืองตราดให้รอดพ้นจากอันตราย ชาวเมืองอยู่เย็นเป็นสุข ศาลหลักเมืองเป็นดั่งศูนย์กลางเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-จีน ในวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี มีงานฉลองที่เรียกว่า “วันงานพลีเมือง” หรือที่ชาวจีนเรียกว่า “วันเซี่ยกงแซยิด” หมายถึง วันเกิดเจ้าพ่อหลักเมืองมีพิธีทำบุญตักบาตรแบบไทย และมีงานประจำปีศาลปุงเถ้าม้าแบบจีน ช่วงก่อน และหลังตรุษจีน 1 เดือน
มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อฝรั่งเศสยึดเมืองตราดนั้นสังเกตเห็นชาวเมืองตราดพากันไปไหว้เจ้าพ่อหลักเมืองอยู่เป็นประจำ
จึงจะถอนเสาหลักเมืองทิ้งโดยให้คนไปขุดแต่ถอนเสาหลักเมืองไม่ขึ้น ครั้นเอาช้างมาดึงเสาหลักเมืองก็ไม่ล้มเพียงแต่เอนไปเล็กน้อย ซึ่งต่อมาชาวเมืองตราดได้บูรณะให้คงสภาพดี
• วัดไผ่ล้อม ตั้งอยู่ที่ถนนหลักเมือง เป็นวัดที่มีบทบาทสำคัญที่สุดต่อการศึกษาของจังหวัดตราด โดยวัดแห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของบิดาแห่งการศึกษาจังหวัดตราด คือท่านเจ้าคุณพระวิมลเมธาจารย์ วรญาณนุรักษ์ สังฆปราโมก ภายในบริเวณวัดยังมีสวนพุทธธรรมสำหรับให้ประชาชนได้ใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม และมีเจดีย์พิพิธภัณฑ์สามท่านเจ้าคุณ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของคนในจังหวัดตราด นอกจากนี้ยังเป็นที่พึ่งของชาวบ้านมาทุกยุคสมัยที่มีการพัฒนาอย่างสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของสังคม สำหรับสภาพแวดล้อมภายในคือ วัตรปฏิบัติที่เคร่งครัดของภิกษุ สามเณรควรแก่การเคารพศรัทธา นอกจากนั้นยังยึดมั่นแนวทางแห่งความกตัญญู ซึ่งเป็นรากฐานที่มั่นคงในการดำรงชีวิตของพุทธศาสนิกชน
• โบราณสถานจวนเรสิดังกัมปอร์ต ตั้งอยู่ที่ถนนหลักเมือง เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ 3 ชั้น หลังคาทรงปั้นหยาลดชั้น เคยใช้เป็นที่พำนักของข้าหลวงฝรั่งเศส ผู้ได้รับการมอบหมายจากรัฐบาลฝรั่งเศสให้ปกครองจังหวัดตราด ในระหว่างปี พ.ศ. 2453-2464 ได้กลายเป็นจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเมื่อปี พ.ศ. 2450-2471 ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้เป็นสำนักงานคุมประพฤติ กรมราชทัณฑ์ แต่ยังคงรูปแบบและปฏิมากรรมเดิมไว้ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ในวันและเวลาราชการ
• แหลมศอก จากถนนสายตราด-แหลมงอบ ไปประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายไปบริเวณแหลมศอก ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3155 ระยะทาง 24 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของศาลกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พระราชบิดาแห่งราชนาวีไทย และเป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดตราด ที่บริเวณแหลมศอกมีหาดทรายแดงอยู่ในบริเวณใกล้เคียง จุดเด่นของแหลมศอกคือ ช่วงที่พระอาทิตย์ตกสวยงามมาก และมีหมู่บ้านชาวประมงที่น่าไปเยือน คือ หมู่บ้านแหลมหิน และหมู่บ้านอ่าวช่อ
• วัดคีรีวิหาร เดิมชื่อว่า วัดท่าเลื่อน หรือวัดภูเขายวน ตั้งอยู่ที่บ้านท่าเลื่อน เป็นวัดเก่าแก่มีอายุมากกว่า 110 ปี แต่ได้รับการบูรณะจนดูใหม่ทั้งวัด ที่ตั้งอยู่บนภูเขาทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านล่างที่เป็นป่า เขา และทะเล มีบรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ เป็นสวนป่าขนาดย่อม ๆ มีต้นสักปลูกอย่างเป็นระเบียบ ลักษณะเด่นของวัด คือ การก่อสร้างด้านสถาปัตยกรรมที่มีความงดงาม และมีการผสมผสานศิลปกรรมสมัยใหม่เข้าไว้ด้วย
ศาสนสถานที่สำคัญภายในบริเวณวัดประกอบด้วย อุโบสถหลังใหญ่ พระเจดีย์ เรือนรับรองสมเด็จพระเทพฯ กุฏิธรรมสารอุทิศ และกุฏินิรมิตสามัคคี ศาลาการเปรียญ วิหารจีนที่ประดิษฐานพระพุทธอุดมสมบูรณ์ พระอวโลกิเตศวร และพระสังกัจจายน์
• การเดินทาง จากตัวเมืองไปตามทางหลวง 318 สายตราด-คลองใหญ่-บ้านหาดเล็ก ไปประมาณ 20 กิโลเมตร
• หาดลานทราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมีบรรยากาศที่เงียบสงบนักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกัน การเดินทาง แยกขวาตามเส้นทางไปคลองใหญ่ ทางหลวงหมายเลข 318 ถนนตราด-คลองใหญ่ ตำบลแหลมกลัด เข้าไปประมาณ 11 กิโลเมตร และเลี้ยวเข้าทางหลวง 3292 บริเวณหาดมีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวเพียงแห่งเดียว ได้แก่ หาดลานทราย รีสอร์ท
• แหลมกลัด เป็นชายหาดที่มีลักษณะเป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล มีเม็ดทรายขาวละเอียด บริเวณหน้าหาดน้ำไม่ลึกมาก สามารถลงเล่นน้ำได้ บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน จากแหลมกลัดสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแหลมศอก เกาะไม้ซี้ เกาะกระดาดและเกาะหมากได้ การเดินทาง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 318 แล้วเลี้ยวขวาเข้าบ้านแหลมกลัด
• วัดสะพานหิน ตั้งอยู่หลักกิโลเมตรที่ 31-32 ถนนตราด-คลองใหญ่ ทางหลวงหมายเลข 318 ตามเส้นทางไปคลองใหญ่ มีทางแยกทางซ้ายมือจากถนนเข้าสู่วัด วัดนี้ไม่ปรากฏว่าสร้างในสมัยใด สันนิษฐานว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี กลางสระน้ำมีโบสถ์เก่าแก่ อยู่ห่างจากวัดประมาณ 1 กิโลเมตร มีแนวหินเชื่อมสองฝั่งคลองใช้เป็นเส้นทางคมนาคม

อำเภอคลองใหญ่
• หาดทรายงาม เป็นหาดทรายขาวละเอียด มีความยาวประมาณ 200 เมตร ขนานไปกับทิวสนทะเล การเดินทาง ใช้เส้นทางเข้าทางเดียวกับแหลมกลัด บริเวณกิโลเมตรที่ 37 และการเดินทางไปชายหาดจะต้องเดินข้ามสะพานไม้เล็ก ๆ ยาวประมาณ 15 เมตร จึงถึงชายหาด
• หาดทรายเงิน บริเวณหาดเป็นป่าสน มีชายหาดที่ไม่กว้างมากนักจึงไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ แต่เหมาะที่จะพักผ่อนเพื่อชมทิวทัศน์ หรือตกปลา จากหาดทรายเงินสามารถที่จะเดินเลียบหาดไปถึงหาดมุกแก้วได้ การเดินทาง หาดทรายเงิน อยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 41 ที่อยู่ถัดจากหาดทรายงาม
• หาดมุกแก้ว และ หาดทรายแก้ว มีบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน ชายหาดมุกแก้วเป็นหาดทรายขาวที่ยาวต่อเนื่องกันตลอดเริ่มจากหาดทรายเงินไปจนถึงหาดทรายแก้วตลอดชายหาดมีทิวสน และ ต้นมะพร้าวที่ขนานไปกับชายหาด ที่บริเวณหาดมุกแก้วสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้
• ศูนย์ราชการุณย์ สภากาชาดไทย เขาล้าน เดิมชื่อว่า ศูนย์สภากาชาดไทย เขาล้าน ตั้งอยู่ถนนตราด-คลองใหญ่ กิโลเมตรที่ 48 ริมทางหลวงหมายเลข 318 ในอดีตสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งเป็นศูนย์สภากาชาดไทยเขาล้าน เพื่อช่วยเหลือชาวเขมรอพยพ จนเมื่อชาวเขมรอพยพแยกย้ายกันกลับภูมิลำเนา ศูนย์นี้จึงปิดไปเมื่อ พ.ศ. 2529 ต่อมาในปี พ.ศ. 2535 ในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทยเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา จึงได้จัดสร้างศาลาราชการุณย์ เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย (เปิดเวลา 08.30-16.00 น.) ภายในศาลาราชการุณย์ประกอบไปด้วยนิทรรศการพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นอกจากนั้นยังมีหุ่นจำลองชาวเขมรอพยพในขณะทำภารกิจประจำวัน เช่น หุงหาอาหาร เย็บปักถักร้อย เป็นต้น สวนไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัด 76 จังหวัด สวนสมุนไพร พระพุทธรูปแบบสุโขทัย ปางมารวิชัย สร้างขึ้นตามพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อยึดเหนี่ยว และเป็นที่พึ่งทางใจแก่ผู้ที่อพยพชาวกัมพูชาที่หนีภัยสงคราม และเป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดตราด และจังหวัดใกล้เคียง ส่วนด้านหลังเป็นหาดทรายบรรยากาศเงียบสงบ ทางศูนย์ฯ มีที่พักไว้รองรับสำหรับผู้ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 3952 1621, 0 3952 1624, 0 3952 1838 โทรสาร 0 3952 1621 www.redcross.or.th/khaolan E-mail : khaolan@tr.ksc.co.th
• หาดไม้รูด เรียกอีกชื่อว่า หาดสำราญ แยกขวาจากทางหลวงหมายเลข 31 ตรงกิโลเมตรที่ 57–58 เข้าไปทางบ้านไม้รูด 5 กิโลเมตร ไปสุดที่สะพานคอนกรีตทางลงหาดอยู่หน้าศาลาประชาคม และเดินต่อไปอีก 200 เมตร บริเวณหาดมีบังกะโลให้เช่าอยู่แห่งเดียว
• หาดบานชื่น เดิมชื่อ หาดมะโร ตั้งอยู่ก่อนถึงอำเภอคลองใหญ่ เส้นทางหลวงหมายเลข 318 ระหว่างกิโลเมตรที่ 59-60 มีทางแยกขวามือเข้าไปอีก 3 กิโลเมตร เป็นหาดที่มีทรายเม็ดละเอียดน้ำใสสะอาด สามารถลงเล่นน้ำได้ มีบังกะโลให้เช่าบริเวณชายหาด
ส่วนที่แคบที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่บนเส้นทางสายตราด-คลองใหญ่ หมู่ที่ 2 บ้านโขดทราย ตำบลหาดเล็ก บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 81–82 ส่วนที่แคบที่สุดมีความกว้างเพียง 450 เมตร เท่านั้น
• ตลาดชายแดนบ้านหาดเล็ก ตั้งอยู่บ้านหาดเล็ก ตำบลหาดเล็ก เป็นหมู่บ้านสุดชายแดนติดต่อกับราชอาณาจักรกัมพูชา อยู่ปลายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 เมื่อสงครามสู้รบในกัมพูชาสิ้นสุดลงราวปี พ.ศ. 2529 ตลาดแห่งนี้นับเป็นแหล่งรับซื้อพืชพันธุ์ธัญญาหารของชาวกัมพูชาเพื่อไปขายต่อที่เกาะกง ตลาดที่บ้านหาดเล็กจะมีเฉพาะในช่วงเช้า เวลาประมาณ 07.00– 08.30 น. และยังมีสินค้าราคาถูกที่มาจากประเทศกัมพูชา เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า แว่นตา น้ำหอม เป็นต้น จากจุดนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยนั่งรถแท็กซี่จากชายแดนบริเวณบ้านหาดเล็กฝั่งประเทศกัมพูชาเพื่อที่จะไปเกาะกงได้ อัตราราคาค่าโดยสารแล้วแต่จะตกลงกัน
• การเดินทาง ไปบ้านหาดเล็กมีรถตู้บริการนักท่องเที่ยวที่ตัวเมืองตราดไปหาดเล็กทุกวัน รถออกทุก ๆ ชั่วโมง อัตราค่าโดยสาร 100 บาท ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง และนักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินทางต่อจากบริเวณด่านถาวร บ้านหาดเล็กข้ามไปนั่งรถแท็กซี่ของฝั่งประเทศกัมพูชาข้ามสะพานไปยังเกาะกงได้ ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 45 นาที สำหรับประชาชน ชาวไทย ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่ของอำเภอคลองใหญ่ สามารถทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวได้ที่ ที่ว่าการอำเภอคลองใหญ่ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการเดินทางได้ที่ ที่ทำการอำเภอคลองใหญ่ โทร. 0 3953 4572 หรือที่สำนักงานจังหวัดตราด ฝ่ายข้อมูล โทร. 0 3951 2081
• หมายเหตุ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการเดินทางข้ามไปกัมพูชาควรนำบัตรประชาชน หนังสือเดินทาง และ วีซ่า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก่อนเดินทางได้ที่ จุดตรวจชายแดนบ้านหาดเล็ก โทร. 0 3958 8084
สำหรับนักท่องเที่ยว ชาวต่างประเทศ ที่ต้องการเดินทางข้ามไปประเทศกัมพูชาต้องนำหนังสือเดินทาง (PASSPORT) วีซ่า มาแสดงที่จุดตรวจชายแดนบ้านหาดเล็ก โทร. 0 3958 8084 หรือที่สถานทูตกัมพูชา กรุงเทพฯ โทร. 0 2253 7967, 0 2254 6630

อำเภอเขาสมิง
• วัดเมืองเก่าแสนตุ่ม และโบราณสถานเขาโต๊ะโมะ ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 บ้านอีเร็ม ตำบลประณีต อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเขาสมิงประมาณ 38 กิโลเมตร วัดนี้เป็นวัดที่มีความร่มรื่น ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อน และการปฏิบัติธรรม
ส่วนบริเวณวัดด้านทิศใต้เป็นที่ตั้งโบราณสถานเขาโต๊ะโมะ ที่คาดว่าสร้างขึ้นในสมัยก่อนพุทธกาล มีความเชื่อว่าใต้พื้นบริเวณโบราณสถานมีสมบัติเป็นแสนตุ่ม อันเป็นที่มาของชื่อวัดแสนตุ่ม โบราณสถานเขาโต๊ะโมะ มีลักษณะเป็นเนินดิน มีต้นไม้ปกคลุม มีแท่งหินวางอยู่เรียงราย หินเหล่านี้มีสีน้ำตาลเข้ม เป็นรูปเหลี่ยมตั้งแต่สี่เหลี่ยมถึงเก้าเหลี่ยม ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ถึง 150 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 15 เซนติเมตร ถึง 20 เซนติเมตร น้ำหนักตั้งแต่ 10 กิโลกรัมถึง 100 กิโลกรัม การวางเรียงซ้อนของหินคล้ายเทวสถาน หินบางก้อนเมื่อเคาะจะมีเสียงดังกังวานเหมือนเคาะระฆัง
• การเดินทาง เริ่มจากทางแยกแสนตุ้งใช้เส้นทางหมายเลข 3157 แสนตุ้ง-บ่อไร่ ถึงหลักกิโลเมตรที่ 18.5 จะมีทางแยกเลี้ยวซ้ายไปบ้านตาพลาย เส้นทางหมายเลข 3158 อีกประมาณ 2.5 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสายบ้านนามะขาม บ้าน อีเร็ม ระยะทาง9 กิโลเมตร

อำเภอบ่อไร่
• ตลาดพลอย ที่ผ่านมาตลาดพลอยในอำเภอบ่อไร่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตพลอยแดง หรือทับทิมสยาม ตลาดพลอยที่ น่าสนใจ ได้แก่ ตลาดพลอยหัวทุ่ง ตลาดพลอยบ้านสระใหญ่ ตลาดพลอยหนองบอน ฯลฯ โดยในแต่ละวันตลาดพลอยแต่ละแห่ง จะเริ่มเปิดให้มีการซื้อขายในช่วงเช้าตรู่จนถึงเวลา 10.00 น.
ปัจจุบันตลาดพลอยในเขตอำเภอบ่อไร่ประสบปัญหาในเรื่องหาแหล่งพลอยได้ยากจึงทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายพลอยซบเซาลง ถ้านักท่องเที่ยวที่สนใจจะไปซื้อพลอย หรือชมสภาพโดยทั่ว ๆ ไปของตลาดพลอยนั้น ยังพอมีเหลือให้ชม และซื้ออยู่บ้าง
• น้ำตกเขาสลัดได ไปตามถนนสายจินตกานนท์ (แสนตุ้ง-บ่อไร่) ประมาณกิโลเมตรที่ 25 มีทางแยกซ้ายไปน้ำตกเขาสลัดได ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร บริเวณรอบ ๆ น้ำตก มีป่าเขา และธรรมชาติสวยงามเหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ
• อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 65,525 ไร่ ภายในอุทยานฯ มีสถานที่น่าสนใจ ได้แก่ น้ำตกคลองแก้ว มีทั้งหมด 7 ชั้น ในแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันออกไป มีลำธารน้ำไหลผ่านจากชั้นบนลงมาสู่ชั้นล่างตลอดสายโดยเฉพาะชั้นที่ 4 สามารถมองเห็นทัศนียภาพของบ่อไร่ นักท่องเที่ยวโดยส่วนใหญ่นิยมเที่ยวกันเพียง 4 ชั้นเท่านั้น หากต้องการเที่ยวให้ครบทุกชั้นต้องใช้เวลานานร่วมวัน นอกจากนั้นยังมี น้ำตกสลัดได น้ำตกคลองใจ และ ผาลานหิน
สถานที่พัก ทางอุทยานฯ ไม่มีบริการบ้านพัก แต่นักท่องเที่ยวสามารถนำเต็นท์ไปกางได้ ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว หมู่ 2 ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด 23140
• การเดินทาง จากกรุงเทพฯ ไปตามถนนสุขุมวิท ทางหลวงหมายเลข 3 ถึงตลาดแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3157 สายแสนตุ้ง-บ่อไร่ ไปประมาณ 33 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายผ่านตำรวจตระเวนชายแดนที่ 116 ไปอีก 8 กิโลเมตร ถึงน้ำตกคลองแก้ว

อำเภอแหลมงอบ
• แหลมงอบ เป็นอำเภอเลียบชายหาดอำเภอหนึ่งของจังหวัดตราด อยู่ห่างจากตัวจังหวัดไปตามทางหลวงหมายเลข 3148 สายตราด-แหลมงอบ ประมาณ 17 กิโลเมตร ที่อำเภอแหลมงอบมีท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ ชื่อว่า ท่าเรือแหลมงอบ อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอแหลมงอบประมาณ 500 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือโดยสารประจำทาง หรือเช่าเรือไปเที่ยวเกาะต่าง ๆ ได้ เช่น เกาะช้าง เกาะกระดาด เกาะกูด เกาะแรด ฯลฯ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งร้านขายของที่ระลึก และอาหารทะเล กะปิ น้ำปลา กุ้งแห้ง รวมทั้งงอบแบบต่าง ๆ ด้วย
บ้านน้ำเชี่ยว อยู่ห่างจากอำเภอเมืองไปตามเส้นทางสายตราด-แหลมงอบ ประมาณ 8 กิโลเมตร มีชื่อเสียงในการทำงอบ เรียกว่า “งอบน้ำเชี่ยว” เป็นหัตถกรรมพื้นบ้านของจังหวัดตราดที่สืบทอดมาแต่โบราณ นอกจากการทำงอบแล้วที่บ้านน้ำเชี่ยวยังมีผลิตผลจากการประมง เช่น กะปิ น้ำปลา กุ้งแห้ง ฯลฯ ไว้จำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวด้วย
• อนุสรณ์สถานยุทธนาวีที่เกาะช้าง จัดสร้างขึ้นบริเวณชายทะเลแหลมงอบ มีอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ผันพระพักตร์ไปยังบริเวณยุทธนาวีเกาะช้าง มีการจัดบริเวณ และอาคารพิพิธภัณฑ์คล้ายเรือรบ ด้านในพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงข้อมูลประวัติศาสตร์ของกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ประวัติการสู้รบของกองทัพเรือไทยกับกองกำลังเรือรบของฝรั่งเศส รอบ ๆ บริเวณอนุสรณ์สถานได้จัดเป็นสวนสำหรับพักผ่อน และจะมีงานฉลองเพื่อระลึกถึงการทำยุทธนาวีของกองทัพเรือไทย ระหว่างวันที่ 17-21 มกราคม ของทุกปี
• เกาะปุย เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ฝั่ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเหมาะที่จะพักผ่อน แวดล้อมด้วยธรรมชาติงดงาม บรรยากาศร่มรื่น การเดินทาง สะดวกปลอดภัยทุกฤดูกาล บนเกาะมีสวนมะพร้าว สมุนไพรนานาชนิด และบ่อดินสอพองที่ได้รับการกล่าวถึง เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสตราด หาดที่เกาะปุยมีลักษณะเป็นเลนปนทราย จึงไม่เหมาะสำหรับว่ายน้ำ แต่เหมาะสำหรับผู้ที่รักสงบ และต้องการพักผ่อนเงียบ ๆ การเดินทาง ควรไปเช่าเรือจากท่าเรือแหลมงอบ หากมี รถไปเองควรไปขึ้นเรือที่แหลมอวน โดยใช้เส้นทางตราด-แหลมงอบ 15 กิโลเมตร จะมีปั๊มน้ำมัน ปตท. อยู่ทางขวามือแล้วมีทางแยกเข้าทางลูกรังประมาณ 5 กิโลเมตร มีป้ายบอกชื่อแหลมอวนอยู่ทางซ้ายเข้าไป 500 เมตร สามารถหาเรือข้ามฟากไปยังเกาะปุย และมีบริการรับฝากรถ ค่าเช่าเรือไป-กลับ แหลมอวน-เกาะปุย ในราคาเหมาลำประมาณ 200-300 บาท ใช้เวลาในการเดินทาง 10 นาที
• อ่าวตาลคู่ ตั้งอยู่ที่ตำบลบางปิด ห่างจากอำเภอแหลมงอบประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3156 เลยทางแยกแหลมงอบ-บ้านแสนตุ้งประมาณ 8 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าไปอีก 4 กิโลเมตร ชายหาดอ่าวตาลคู่มีลักษณะเด่น คือ หาดทรายละเอียด น้ำทะเลใส สามารถลงเล่นน้ำได้ เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนเพราะมีความสวยงามอากาศดี และในบริเวณมีร้านอาหาร ชาวจังหวัดตราดนิยมไปพักผ่อนในช่วงวันหยุด

Source : tourismthailand.org