สถานที่ท่องเที่ยวในนครศรีธรรมราช

สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช

อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง วัดพระมหาธาตุเป็น พระอารามหลวงชั้นเอก ชั้นวรมหาวิหาร เดิมชื่อวัดพระบรมธาตุ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของ ภาคใต้และประเทศไทย ตามตำนานพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช กล่าวว่า เจ้าชายธนกุมารและพระนางเหมชาลา เป็นผู้นำเสด็จพระบรมธาตุมาประดิษฐาน ณ หาดทรายแก้วและสร้างเจดีย์องค์เล็ก ๆ เป็นที่หมายไว้ ต่อมาในปีมหาศักราช 1098 (พ.ศ.1719) พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ทรงสร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นพร้อมการก่อสร้างเจดีย์ขึ้นใหม่ พระบรมธาตุเจดีย์มีลักษณะรูปแบบศิลปกรรมเป็นเจดีย์ทรงลังกาสูง 55.78 เมตร (กรมศิลปากรวัดเมื่อการบูรณะปลียอดทองคำเมื่อ พ.ศ. 2538) จากฐานบัวคว่ำบัวหงายถึงปลียอด 6.80 เมตร ใช้ทองคำเนื้อสิบหุ้มโดยรอบ ภายในวัดพระมหาธาตุฯ มีวิหารที่มีความสำคัญหลายหลังประดิษฐานอยู่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระวิหารหลวงมีความงามตามแบบสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา วิหารสามจอม วิหารที่มีพระพุทธรูปทรงเครื่องอย่างกษัตริย์ชื่อว่า “พระศรีธรรมาโศกราช” ประดิษฐานอยู่ วิหารพระมหาภิเนษกรมน์ (วิหารพระทรงม้า) วิหารทับเกษตร ส่วนวิหารเขียน และวิหารโพธิ์ลังกานั้นเป็นสถานที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่พุทธศาสนิกชนถวายเป็นพุทธบูชา
พระพุทธสิหิงค์ ประดิษฐานภายในหอพระพุทธสิหิงค์บริเวณศาลากลางจังหวัด เป็นพระพุทธรูปสำคัญที่ตามตำนานกล่าวว่า พระมหากษัตริย์ลังกาโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 700 และมาอยู่ประเทศไทยในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ปัจจุบันพระพุทธสิหิงค์ในประเทศไทยมีอยู่ 3 องค์ คือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ และหอพระพุทธสิหิงค์ จังหวัดนครศรีธรรมราช หอพระพุทธสิหิงค์นี้เดิมเป็นหอพระประจำวังของเจ้าพระยานคร (น้อย) ภายในหอแบ่งเป็นสองตอน ตอนหน้าเป็นที่ประดิษฐานองค์พระพุทธสิหิงค์และพระลากเงิน พระลากทอง ส่วนหอตอนหลังเป็นที่บรรจุอัฐิของสกุล ณ นคร
หอพระอิศวร อยู่ริมถนนราชดำเนิน เป็นโบราณสถานในศาสนาพราหมณ์ เป็นที่ประดิษฐานศิวลึงค์ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของพระอิศวร และฐานโยนิ รวมทั้งเทวรูปสำริดอีกหลายองค์ อาทิ เทวรูปศิวนาฏราช พระอุมา และพระพิฆเนศ ปัจจุบันเทวรูปสำริดในหอพระอิศวรเป็นของจำลอง ของจริงได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช
หอพระนารายณ์ ตั้งอยู่ถนนราชดำเนิน เป็นโบราณสถานในศาสนาพราหมณ์อีกแห่งหนึ่ง ตรงข้ามกับหอพระอิศวร อาคารหอพระนารายณ์เดิมไม่สามารถสืบทราบรูปแบบได้แล้ว สิ่งที่พบภายในหอพระนารายณ์ ได้แก่ เทวรูปพระนารายณ์สลักจากหินทรายสีเทาทรงหมวกรูปกระบอกปลายสอบและพระหัตถ์ขวาทรงสังข์ มีอายุราวพุทธศตวรรษ ที่ 10–11 นับเป็นเทวรูปที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันได้เก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช โบราณวัตถุที่ตั้งแสดงอยู่ในหอพระนารายณ์ขณะนี้คือ เทวรูปพระนารายณ์จำลองจากองค์จริงที่พบในแหล่งโบราณคดีแถบอำเภอสิชล
พระวิหารสูงหรือหอพระสูง เป็นปูชนียสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองโบราณนครศรีธรรมราชด้านทิศเหนือในบริเวณสนามหน้าเมือง ถนนราชดำเนิน เรียกชื่อตามลักษณะของการก่อสร้างของพระวิหารซึ่งสร้างบนเนินดินที่สูงกว่าพื้นปกติดถึง 2.10 เมตร ไม่ปรากฏหลักฐานแสดงประวัติอย่างแท้จริง แต่สามารถสันนิษฐานจากลักษณะของสถาปัตยกรรม และจิตรกรรมฝาผนังว่าสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นแกนดินเหนียว สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพุทธศตวรรษที่ 23–24 หรือในสมัยอยุธยาตอนปลาย
กุฏิทรงไทย หรือ กุฏิร้อยปี ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน บริเวณที่เชื่อว่าตรงข้ามกับ วังตะวันออกอันเป็นนิวาสสถานของเจ้าจอมปราง เดิมเป็นอุทยาน ต่อมาเจ้าพระนคร (น้อย) ยกวังตะวันออก และอุทยานตรงข้ามให้เป็นวัดเช่นเดียวกัน จึงเป็นวัดวังตะวันตก พ.ศ. 2431 พระครูกาชาด (ย่อง) พร้อมด้วยสานุศิษย์ได้สร้างกุฏิขึ้นหมู่หนึ่ง เป็นเรือนเครื่องสับ 3 หลัง มีหลังคาจั่ว แต่ละหลังคาคลุมเชื่อมต่อกัน ตัวเรือนฝาปะกน ตามประตู หน้าต่างและช่องลม ประดับด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนคร ปี พ.ศ. 2535 สมาคมสถาปนิกสยาม คัดเลือกกุฏิวัดวังตะวันตกให้เป็นอาคารอนุรักษ์ดีเด่น ประเภทปูชนียสถานและวัดวาอาราม
วัดสวนหลวง ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช อยู่ภายในเขตเมืองพระเวียงอันเป็นเมืองโบราณ วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามนามว่า สมเด็จเจ้าแม่ลาวทอง ปางอุ้มบาตร และเป็นพระพุทธรูปสำคัญในงานประเพณีลากพระในเทศกาลออกพรรษา โดยจะอัญเชิญสมเด็จเจ้าแม่ลาวทองประดิษฐานบน “นมพระ” หรือ “พนมพระ” (บุษบก) และชักลากไปทั่วเมืองเพื่อให้พุทธศาสนานิกชนได้ร่วมบุญด้วยการ “ลากพระ” ตามประเพณีโบราณที่สืบทอดกันมา และพระอุโบสถในวัดสวนหลวงนั้นเป็นพระอุโบสถสมัยอยุธยา โดยมีภาพปูนปั้นฝีมือช่างท้องถิ่นเกี่ยวกับพุทธประวัติประดับอยู่ผนังภายในพระอุโบสถ
วัดสวนป่าน อยู่ใกล้สามแยกหอนาฬิกา ถนนศรีธรรมโศก ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมเกี่ยวกับ สมัยรัชกาลที่ 5 เสด็จมาประทับที่วัดสวนป่าน เมื่อครั้งเสด็จกลับจากประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี พ.ศ.2441 และภาพพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ผลงานของ แนบ ทิชินพงศ์ ผู้มีผลงานดีเด่นด้านศิลปของนครศรีธรรมราช วาดเสร็จตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 ผู้สนใจชมต้องติดต่อกับทางวัดเพื่อเปิดประตูโบสถ์
สำนักวิปัสสนากรรมฐานวัดชายนา ตั้งอยู่ที่ถนนพัฒนาการทุ่งปรัง เป็นสถานที่ที่มี การสอนวิปัสสนากรรมฐานแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยท่านพุทธทาสภิกขุเป็นผู้เริ่ม ดำเนินการ เพื่อให้เป็นสาขาของวัดสวนโมกข์ บรรยากาศในวัดร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่
เก๋งจีนวัดแจ้ง ตัวอาคารเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนรูปทรงอย่างอาคารจีนภายใน
ประดิษฐานบัวบรรจุอัฐิของเจ้าพระยานคร (หนู) และหม่อมทองเหนี่ยวผู้เป็นชายา ปัจจุบัน
ตั้งอยู่ในเขตวิทยาลัยสงฆ์ภาคทักษิณซึ่งอยู่ในวัดแจ้ง ถนนราชดำเนิน
เก๋งจีนวัดประดู่ ตั้งอยู่ในบริเวณวัดประดู่ ถนนราชดำเนินใกล้สนามกีฬาจังหวัด สร้างสมัยต้นรัตนโกสินทร์ มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นแบบจีนเช่นเดียวกับเก๋งจีนวัดแจ้ง โดยเป็นที่ประดิษฐานอัฐิเจ้าพระยานคร (น้อย) ผู้เป็นบุตรของเจ้าพระยานคร (หนู)
เจดีย์ยักษ์ อยู่ริมถนนศรีปราชญ์ ข้างสำนักงานเทศบาลนครศรีธรรมราช เป็นเจดีย์สูงใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเจดีย์พระบรมธาตุ ทรงเจดีย์เป็นแบบลังกา สันนิษฐานว่าชาวลังกาที่สร้างพระบรมธาตุเป็นผู้สร้าง ราวพ.ศ. 1800–1900 มีการซ่อมสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ตอนต้น แต่ก่อนองค์เจดีย์ทรุดโทรมมากและยอดหัก กรมศิลปากรได้ซ่อมแซมใน ปี พ.ศ. 2518–2522 ด้านหน้าพระเจดีย์มีวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปั้นนั่งองค์ใหญ่ สมัยอยุธยา เรียกพระเงินหรือหลวงพ่อเงิน
บ้านหนังตะลุงสุชาติ ทรัพย์สิน เลขที่ 10/18 ถนนศรีธรรมโศก ซอย 3 ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Thailand Tourism Awards) ประจำปี 2539 รางวัลดีเด่นประเภทวัฒนธรรมและโบราณสถาน บริเวณบ้านหนังตะลุงได้จัดแบ่งเป็นพิพิธภัณฑ์หนังตะลุง จัดแสดงหนังตะลุงประเภทต่าง ๆ สาธิตการแกะรูปหนังตะลุง มีเวทีสาธิตหนังตะลุงอย่างครบวงจร นักท่องเที่ยวและผู้สนใจสามารถเข้าชมและศึกษาศิลปวัฒนธรรมได้ทุกวัน โทร. 0 75 34 6394
กำแพงเมือง อยู่ริมถนนราชดำเนิน เป็นกำแพงที่ซ่อมขึ้นใหม่ตามรูปเดิมในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ และได้รับการบูรณะเพิ่มเติมขึ้นอีกในปี พ.ศ. 2533 เป็นแนวขนานไปกับคูเมือง ตั้งแต่ป้อมประตูชัยเหนือ หรือประตูชัยศักดิ์ ไปทางตะวันออก ยาวประมาณ 100 เมตร
สนามหน้าเมือง ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นสนามรบในอดีต ต่อมากลายเป็นสถานที่ใช้ประกอบพิธีกรรมและกิจกรรมทั้งของรัฐและราษฎร เช่น เคยใช้เป็นที่สร้างพลับพลารับเสด็จพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลต่าง ๆ เป็นที่ประกอบพิธีสงกรานต์ ฝึกทหาร และยุวชนทหาร และจัดงานประเพณีที่สำคัญของชาวนครรวมทั้งงานรื่นเริงอื่น ๆ บริเวณที่อยู่ใกล้หอพระสูงมีอาคารสถาปัตยกรรมท้องถิ่นที่สร้างแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2469 ชื่ออาคารศรีธรรมราชสโมสร ปัจจุบันคือ สำนักงาน ททท. ภาคใต้ เขต 2 สมาคมสถาปนิกสยามได้มอบรางวัลดีเด่นด้านอนุรักษ์สถาปัตยกรรม ประจำปี 2537 และทางด้านหลังสำนักงาน ททท. คือ ถนนท่าช้าง ได้ชื่อว่าเป็นถนนหัตถกรรม เพราะมีอาคารร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมนานาชนิด อันเป็นเอกลักษณ์ เก่าแก่ของเมืองนครศรีธรรมราชมาช้านาน
ศาลาโดหก หรือศาลาประดู่หก อยู่ริมถนนราชดำเนิน เดิมเป็นศาลานอกกำแพงเมืองตรงประตูชัยเหนือ อันเป็นที่พักของคนเดินทาง ซึ่งเข้าเมืองไม่ทัน เพราะประตูเมืองปิดเสียก่อน ศาลาแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างต้นประดู่ (ต้นโด) หกต้น ชาวนครเรียกว่า “หลาโดหก” ศาลาหลังที่มีอยู่ทุกวันนี้สร้างขึ้นใหม่เป็นศาลาทรงไทยอยู่ริมถนนราชดำเนิน ส่วนต้นประดู่ทั้งหกต้นได้ตายไปหมดแล้ว ทางเทศบาลจึงปลูกขึ้นใหม่เพื่อเป็นที่ระลึกถึงประดู่ทั้งหกต้น
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ถนนราชดำเนิน ตรงข้ามวัดสวนหลวง ตำบลในเมือง เป็นอาคารทรงไทย 2 ชั้น สร้างเมื่อ พ.ศ. 2514 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเปิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2517 บริเวณโดยรอบพิพิธภัณฑสถานฯ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ภายในอาคารจัดแสดงโบราณวัตถุที่พบในจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง โบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ศิลปะสมัยทวารวดีจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ เครื่องถ้วยจีน เครื่องถ้วยอันนัม (ญวณ) เครื่องสังคโลก เงินตราสมัยต่าง ๆ ศิลปพื้นบ้านภาคใต้ หนังตะลุง มโหรสพพื้นบ้านภาคใต้ เครื่องมือเครื่องใช้ในการดำรงชีวิตของคนภาคใต้ ได้แก่ เครื่องมือในการทำนา เครื่องทอผ้า อุปกรณ์การกรีดยาง รากไม้แก้วแกะสลักเป็นรูปสัตว์กว่าร้อยชนิดอยู่รวมกันเป็นฝีมือของ นายอ่ำ ศรีสัมพุทธ ซึ่งได้รับรางวัลที่ 1 ประเภทงานแกะสลักของจังหวัดในงานเดือนสิบ และมรดกดีเด่นของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ พนักกันยา เรือพระที่นั่งทำด้วยแผ่นเงินขนาดใหญ่ถมทองอย่างสวยงามถือว่าเป็นถมทองชิ้นเยี่ยมที่สุดและใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช และยังมี หน้าบันไม้จำหลักภาพ เทพรำศิลปะภาคใต้ เครื่องถม เครื่องทองเหลือง ผ้ายกเมืองนครศรีธรรมราช รถม้าโบราณ เป็นต้น เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ –วันอาทิตย์ เว้นวันจันทร์-วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00–16.00 น. ค่าเข้าชมคนไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท สอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80000 โทร. 0 7534 1075, 0 7534 0419, 0 7535 6229 โทรสาร 0 7534 0419
สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 (ทุ่งท่าลาด) อยู่ที่ถนนราชดำเนิน เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่มีเนื้อที่ประมาณ 1,257 ไร่ ตั้งอยู่หลังสนามกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของ “สวนราชฤดี” ในสมัย ร.5 ภายในสวนมีสวนสัตว์เปิด สวนนกนานาชนิด สวนสุขภาพ รวมทั้งทะเลสาบซึ่งเป็นที่อาศัยของนกเป็ดน้ำที่อพยพมาจากถิ่นอื่นในช่วงมกราคมถึงมีนาคม ของทุกปี
อนุสาวรีย์วีรไทย ตั้งอยู่ในค่ายวชิราวุธ (กองทัพภาคที่ 4) ถนนราชดำเนิน เป็นอนุสาวรีย์ที่หล่อด้วยทองแดงรมดำ เป็นรูปทหารเตรียมรบสองมือจับปืนติดดาบเตรียมแทง ชาวบ้านเรียกว่า “จ่าดำ” หรือ “เจ้าพ่อดำ” สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ของทหารไทยในภาคใต้ที่เสียชีวิตในการปะทะกับทหารญี่ปุ่น ในสงครามมหาเอเชียบูรพา เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2484
สำนักศิลปและวัฒนธรรม สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ในสถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช อยู่ห่างจากตัวเมืองไปตามเส้นทางนครศรีธรรมราช-พรหมคีรี (ทางหลวงหมายเลข 4016) ประมาณ 13 กิโลเมตร เป็นสถานที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งโบราณคดีที่ขุดค้นพบในนครศรีธรรมราช ซึ่งได้จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้านในอดีต ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมืองในสมัยต่างๆ จนมาเป็นอาณาจักรศรีวิชัย ทั้งยังเป็นศูนย์อนุรักษ์และฟื้นฟูมหรสพพื้นบ้าน เป็นแหล่งค้นคว้ารวบรวมทางด้านภาษาและวรรณกรรม รวมทั้งคติชนวิทยาที่สำคัญได้แก่ข้อความจากศิลาจารึกที่ค้นพบที่เขาช่องคอย และโบราณวัตถุที่ชุมชนโบราณวัดโมคลาน เป็นหลักฐานที่สำคัญที่ระบุว่าเมืองนครศรีธรรมราชสร้างขึ้นเมื่อใด ศูนย์วัฒนธรรมภาคใต้แห่งนี้เปิดให้เข้าชมวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00 –16.00 น. โทร. 0 7539 2089

อำเภอลานสกา
อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ครอบคลุมพื้นที่ของอำเภอเมือง อำเภอพิปูน อำเภอพรหมคีรี อำเภอลานสกา อำเภอฉวาง อำเภอช้างกลาง และอำเภอนบพิตำ มีเนื้อที่ประมาณ 570 ตารางกิโลเมตร ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2517 ประกอบด้วยเทือกเขาที่สลับซับซ้อน มียอดเขาหลวงเป็นยอดเขาสูงสุดประมาณ 1,835 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งสูงที่สุดใน ภาคใต้เป็นแหล่งของต้นน้ำลำธารและคลองต่าง ๆ กว่า 15 สาย มีสภาพเป็นป่าดงดิบชื้นและป่าดิบเขา
เส้นทางการเดินในอุทยานเป็นวงรอบ มีธรรมชาติที่สวยงามและมีความหลากหลายทางชีวภาพ มีพืชและสัตว์ที่หายากอยู่มากมาย อุทยานแห่งนี้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ( Thailand Tourism Awards) ประจำปี 2541 รางวัลยอดเยี่ยมประเภท แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ช่วงเวลาที่เหมาะในการเดินทางมาท่องเที่ยว คือ เดือนมกราคม-เดือนกรกฎาคม
นอกจากในเขตอุทยานจะมีน้ำตกแล้ว อุทยานยังมีน้ำตกที่อยู่ในอำเภอต่าง ๆ เช่น น้ำตกพรหมโลก น้ำตกอ้ายเขียว หรือน้ำตกในเขียว ในอำเภอพรหมคีรี น้ำตกกรุงชิง อำเภอนบพิตำ น้ำตกท่าแพ อำเภอลานสกา น้ำตกสวนอาย อำเภอฉวาง
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจบริเวณอุทยาน ได้แก่
น้ำตกกะโรม ต้นน้ำเกิดจากเทือกเขานครศรีธรรมราช ไหลลงมาจากยอดเขาลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ มีหนานหรือชั้นถึง 19 ชั้น เช่น หนานผึ้ง หนานน้ำรวง หนานดาดฟ้า และหนานสอยดาว เป็นหนานที่สูงสุดประมาณ 1,300-1,400 เมตร พระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ของไทยเคยเสด็จประพาสน้ำตกแห่งนี้ คือพระปรมาภิไธยย่อของรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 คือ “จปร.” และ “วปร.”
การเดินทาง จากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 4016 ประมาณ 9 กิโลเมตร แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4015 ไปอีก 20 กิโลเมตร ทางเข้าน้ำตกอยู่ทางขวามือ
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ อุทยานมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกะโรม ระยะทาง 2 กิโลเมตร และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกรุงชิง ระยะทาง 3.8 กิโลเมตร ทั้ง 2 เส้นทาง สามารถเดินเองหรือมีเจ้าหน้าที่นำก็ได้
อุทยานมีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์บริการ สอบถามข้อมูลได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ตำบลเขาแก้ว อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช 80230 โทร. 0 7535 4839
บ้านคีรีวง เป็นชุมชนเก่าแก่ที่อพยพไปอาศัยอยู่เชิงเขาหลวง ตำบลกำโลน อันเป็น เส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดเขาหลวง ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่สงบสังคมแบบเครือญาติ อาชีพหลัก คือ การทำสวนผลไม้ผสม เรียกว่า “สวนสมรม” เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน สะตอ ชุมชนบ้านคีรีวง แบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มมัดย้อม กลุ่มสมุนไพร กลุ่มจักสานกะลามะพร้าว กลุ่มแปรรูป น้ำผลไม้ กลุ่มไวน์ และกลุ่มทุเรียนกวน ซึ่งแต่กลุ่มจะมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวก็มักจะซื้อเป็นของฝากกันอยู่เสมอ สินค้าราคาไม่แพงและมีคุณภาพ
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2531 ได้เกิดมหาอุทกธรณีภัย หมู่บ้านถูกน้ำพัดหายไปนับ 100 หลัง ซึ่งวัดและชาวคีรีวงได้รักษาพระอุโบสถและบ้านที่ประสบภัยไว้เป็นอนุสรณ์สถาน ชุมชนคีรีวงได้เป็น ชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ( Thailand Tourism Awards) ประจำปี 2541 ประเภทเมืองและชุมชน
เนื่องจากเป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิตแบบชาวสวนอยู่กับธรรมชาติและได้พัฒนาการบริการนักท่องเที่ยวขึ้นมาเป็นธุรกิจใหม่ของชุมชน ประกอบด้วยการนำทางเดินป่า ลูกหาบ การจัดที่พักแบบโฮมสเตย์ โดยการจัดตั้งชมรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เป็นองค์กรกลางของชาวชุมชนจัดแบ่งหน้าที่ไปยังกลุ่มต่าง ๆ ให้เกิดการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างทั่วถึง การพักแบบโฮมสเตย์ ผู้สนใจจะเสียค่าที่พักคืนละ 100 บาท ค่าอาหาร 50 บาท แต่สำหรับผู้ที่ต้องการจะเรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตชาวคีรีวง จะเสียค่านำเที่ยว 1,300 บาท ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน นักท่องเที่ยวจะเข้าไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชุมชนคีรีวงได้ตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูกาลผลไม้ออกชุกเดือนกรกฎาคม-กันยายน สอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ อบต.กำโลน โทร. 0 7553 3111-2
การเดินทางไปบ้านคีรีวง จากอำเภอเมือง ตามทางหลวงหมายเลข 4016 จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4015 บริเวณกิโลเมตรที่ 9 เลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้านคีรีวง เข้าไป 9 กิโลเมตร หรือขึ้นรถสองแถวจากตลาดยาว ในอำเภอเมือง มีรถออก ตั้งแต่เวลา 07.00-16.00 น. ราคา 20 บาท
ยอดเขาหลวง มีกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติตามเส้นทางบ้านคีรีวง-ยอดเขาหลวง ซึ่งมีความสูง 1,835 เมตร ใช้เวลาในการเดินศึกษาท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน เสียค่าใช้จ่ายคนละ 1,500 คน การเดินไม่ควรจะเกินครั้งละ 15 คนช่วงเดือนที่เหมาะจะเดินป่ายอดเขาหลวง คือเดือนมกราคม-มิถุนายน ผู้สนใจขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ประสานงานบ้านคีรีวง
โทร. 0 9501 2706

อำเภอพรหมคีรี
พระตำหนักเมืองนคร จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 4016 บริเวณกิโลเมตรที่ 23–24 พระตำหนักนี้ตั้งอยู่ในบริเวณสวนผลไม้เก่าแก่ของตระกูลทองสมัครซึ่งเป็นผู้สร้าง เรือนรับรองถวายในนามของชาวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในคราวที่เสด็จมาทรงงาน ที่เมืองนครศรีธรรมราช บริเวณโดยรอบแวดล้อมร่มรื่นด้วยไม้ผลและไม้ประดับพระตำหนัก เมืองนครเปิดให้เข้าชมได้ทุกวันเวลา 8.00–17.00 น. เว้นวันพุธและเวลาที่พระราชวงศ์เสด็จ
ประทับ โทร. 0 7539 6300
วัดเขาขุนพนมและศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาเขาขุนพนม อยู่ในเขตหมู่ที่ 3 ตำบลบ้านเกาะ
จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 4016 ถึงกิโลเมตรที่ 21 ผ่านตลาดพรหมโลก มีทางแยกขวาไปอีก 2.5 กิโลเมตร วัดเขาขุนพนม เป็นวัดที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี มีถ้ำที่มีกำแพงก่ออิฐถือปูน มีใบเสมาเช่นเดียวกับกำแพงเมือง ผนังด้านหน้ามีลายปูนปั้นประดับเครื่องลายครามจีน ในถ้ำมีพระพุทธรูปสำริดประมาณ 30 องค์ และพระพุทธบาทสำริด ถ้ำในวัดแห่งนี้มีหลายถ้ำทะลุถึงกัน สันนิษฐานว่าเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี แต่บางท่านก็ว่าเป็นที่พักผ่อนสำหรับเจ้าหญิงเกศิณีธิดาของเจ้านราสุริยวงศ์ เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ช่วง พ.ศ. 2312 - 2319
ริมทางเดินขึ้นเขาขุนพนม มีศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาเขาขุนพนม เพื่อให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศแก่ประชาชน ชุมชนเขาขุนพนมเป็นชุมชนวัฒนธรรม มีกิจกรรมการเข้าค่ายพักอบรม การรวมกลุ่มเป็นชมรมการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาเที่ยวชมสวนผลไม้ด้วยจักรยาน โทร. 0 7534 5154
น้ำตกพรหมโลก อยู่ตำบลพรหมโลก ห่างจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 4016 (นครศรีธรรมราช-พรหมคีรี) ถึงกิโลเมตรที่ 20 มีทางแยกซ้ายเข้าทางหลวง 4132 อีกประมาณ 5 กิโลเมตร จัดว่าเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีลานหินกว้างและสวยงามแห่งหนึ่ง มีต้นน้ำจากเทือกเขานครศรีธรรมราชไหลลงมาบนแผ่นหิน 4 หนาน (ชั้น) ได้แก่ หนานบ่อน้ำวน หนานวังไม้ปัก หนานวังหัวบัว หนานวังอ้ายแล สายน้ำไหลผ่านหมู่ไม้นานาพันธุ์ ริมเชิงเขา แล้วไหลไปเป็นคลองท่าแพและลงสู่อ่าวไทยที่ตำบลปากพูน
น้ำตกอ้ายเขียว หรือในเขียว อยู่ตำบลทอนหงส์ ห่างจากอำเภอเมือง ประมาณ 30 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 4016 ใช้เส้นทางเดียวกับน้ำตกพรหมโลก แต่เลยไปจนถึงกิโลเมตรที่ 26 มีทางแยกซ้ายเข้าไปอีก 3 กิโลเมตร ต้นน้ำเกิดจากเขาหลวงเช่นกัน มีทั้งหมด 9 ชั้น เช่น หนานช่องไทร หนานบังใบ หนานไม้ไผ่ หนานเสือผ่าน หนานบุปผาสวรรค์ หนานหินกอง หนานหัวช้าง หนานไทรกวาดลาน หนานฝาแฝด สภาพทั่วไปยังคงเป็นป่าทึบ สองข้างทางเข้าน้ำตกเป็นสวนพลู ชาวนครเรียกว่า “พลูปากหราม” เพราะมีรสเผ็ดร้อน กลิ่นหอม หากจะชมทิวทัศน์ยอดเขาหลวงซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,835 เมตร ควรไปชมที่น้ำตกแห่งนี้
บ้านปลายอวน หมู่ 5 ตำบลพรหมโลก อยู่เชิงเขาหลวงใกล้น้ำตกพรหมโลก ชุมชนประกอบอาชีพสวนผลไม้เป็นหลัก มีการจัดตั้งชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติเพื่อบริการเดินป่า เส้นทางจากหมู่บ้านไปถึงน้ำตกพิมานเมฆ ที่มีความสูง 1,505 เมตร ระยะทาง 5 กิโลเมตรเศษ ตามเส้นทางมีพรรณไม้ สัตว์ป่า ถ้ำ สายน้ำลำธารและต้นเต่าร้างแดงยักษ์ เป็นพรรณไม้เอกลักษณ์เด่น ติดต่อรายละเอียด ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติบ้านปลายอวน โทร. 0 7533 8633

อำเภอนบพิตำ
น้ำตกกรุงชิง เป็นน้ำตกที่สวยงามและสำคัญของอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ตั้งอยู่ในตำบลกรุงชิง ชื่อ “กรุงชิง” มาจากคำว่า “ต้นชิง” ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ตระกูลปาล์มชนิดหนึ่งที่มีอยู่มากในเขตนี้ น้ำตกกรุงชิงมีอยู่หลายชั้น เช่น หนานมัดแพ หนานฝนแสนห่า หนานปลิว หนานจน หนานโจร หนานต้นตอ หนานวังเรือบิน ชั้นที่สวยที่สุด ได้แก่ “หนานฝนแสนห่า” เพราะน้ำตกจากหน้าผาสูงชันประมาณ 100 เมตร กระแสน้ำแผ่เป็นผืนกว้างกระจายออกเป็นละอองเหมือนม่านฝน ไม่จับกันเป็นเกลียวน้ำดังน้ำตกทั่วไป จีงเรียกว่า “ฝนแสนห่า” น้ำตกชั้นนี้ยังมีความสำคัญที่ปรากฏอยู่หลังธนบัตรราคา 1,000 บาท ของไทยอีกด้วย
จากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ที่ ขล. 4 ถึงหนานฝนแสนห่า ระยะทาง 3.8 กิโลเมตร บริเวณน้ำตกกรุงชิงมีที่พักและสถานที่สำหรับเล่นแคมป์ไฟ มีร้านค้าและร้านอาหารตั้งอยู่เชิงเขา
การเดินทางจากตัวเมือง ใช้เส้นทางหลวงสายนครศรีธรรมราช-พรหมคีรี (ทางหลวง หมายเลข 4016) ถึงสามแยกนาเหรงเลี้ยวซ้ายไปถึงอำเภอนบพิตำแล้วเลี้ยวขวา (ทางหลวง หมายเลข 4186) ระยะทาง 70 กิโลเมตร
ถ้ำหงส์ เป็นถ้ำขนาดกลาง ปากถ้ำค่อนข้างเล็กขนาดคนรอดได้ทีละคน ต้องใช้ความระมัดระวังในการลงไต่ลงไปในถ้ำ ภายในถ้ำมีธารน้ำไหลผ่านตลอดแนวถ้ำ ก่อนไหลลงใต้ดิน ไปสู่ลำธารภายนอก ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยรูปร่างต่าง ๆ กัน และมีลักษณะพิเศษที่พบเห็นได้ไม่มากนัก คือ ภายในถ้ำมีน้ำตกที่ไหลผ่านหินสามชั้น การเที่ยวชมภายในถ้ำจะต้องเดิน ท่องน้ำตลอด สามารถเดินทะลุออกไปอีกด้านหนึ่งได้ ความยาวประมาณ 300 เมตร ถ้ำหงส์นี้ อยู่ในความดูแลของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขานันที่ ขน.6 (คลองลำแพน) การเดินทางไป ตามเส้นทางเดียวกับน้ำตกกรุงชิง แต่ถึงก่อน
น้ำตกยอดเหลือง หรือน้ำตกเมืองใหม่ อยู่ทางทิศใต้ของน้ำตกกรุงชิง หมู่ที่ 6 ตำบลนาเหรง เป็นน้ำตกขนาดกลางมี 4 ชั้น คือ หนานเตย หนานกระโดด หนานหญ้าคา หนานปลิว สามารถลงเล่นน้ำได้ สภาพทั่วไปเป็นป่าร่มครึ้ม การเดินทาง จากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 4016 (นครศรีธรรมราช-พรหมคีรี) ระยะทาง 40 กิโลเมตร

อำเภอท่าศาลา
มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ตั้งอยู่เลขที่ 222 ตำบลไทยบุรี สถาปนาเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2535 ลักษณะเป็นเมืองมหาวิทยาลัยและเป็นอุทยานการศึกษา ที่เปิดให้เข้าชมได้แล้วสำหรับผู้ที่สนใจ คือ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีหอดูดาว อุทยานโบราณคดี (ตุมปัง) มีพื้นที่ประมาณ 9,000 ไร่
เปิดให้เข้าชมวันและเวลาราชการ สอบถามรายละเอียด โทร. 0 7533 9124, 0 7538 4000 ต่อ ประชาสัมพันธ์ หากต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะควรติดต่อล่วงหน้า การเดินทาง ห่างจากอำเภอเมือง 30 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 401 เลี้ยวซ้ายบริเวณกิโลเมตรที่ 19
อุทยานแห่งชาติเขานัน ห่างจากอำเภอท่าศาลา 30 กิโลเมตร อุทยานมีเนื้อที่ประมาณ 436 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ของอำเภอท่าศาลา อำเภอสิชล และอำเภอนบพิตำ นอกจากนี้ ยังมีอาณาเขตที่ครอบคลุมเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขานัน และเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ากรุงชิงบางส่วน ลักษณะเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นแนวติดต่อมาจากอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เป็นป่าต้นน้ำ ของคลองหลายสาย
อุทยานมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่
น้ำตกสุนันทา เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีความงดงามตามธรรมชาติ สายน้ำไหลจากหน้าผาชันลงสู่ แอ่งน้ำเบื้องล่าง และไหลลงสู่ลำคลองกลาย ซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญในเขตอำเภอท่าศาลา สามารถจัดกิจกรรมล่องแพตามลำน้ำได้ในช่วงฤดูน้ำหลาก
น้ำตกกรุงนาง เป็นน้ำตก 3 ชั้น ขนาดกลาง แต่ละชั้นสูงประมาณ 30 เมตร ตั้งอยู่ที่บ้านสวนปราง แยกจากเส้นทางไปบ้านปากลง เป็นทางลูกรังใช้ได้ตลอดปี
น้ำตกคลองปาว เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง มีลักษณะไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ เป็นต้นกำเนิดของคลองกลาย ตลอดลำคลองกลายมีโขดหินสวยงามการเดินทางใช้เส้นทางไปบ้านปากลงเข้าสู่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขานันที่ ขน. 1 (คลองกลาย) ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร แล้วเดินเท้าต่อประมาณ 1 กิโลเมตรถึงน้ำตก
อุทยานมีสถานที่กางเต็นท์บริการนักท่องเที่ยว โดยทำหนังสือแจ้งล่วงหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขานัน ตู้ ป.ณ. 51 อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช 80160
การเดินทาง จากตัวเมืองใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 401 จนข้ามคลองกลายผ่านบ้านสระแก้ว อำเภอ ท่าศาลา หลักกิโลเมตรที่ 110 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าบ้านปากเจา เข้าสู่ที่ทำการอุทยานประมาณ 15 กิโลเมตร
หาดสระบัว ห่างจากอำเภอเมือง 20 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 401 มีทางแยกขวามือเป็นทางลูกรังไปถึงชายหาด ลักษณะชายหาดเป็นแนวยาวจากเหนือลงใต้ ประกอบด้วยหาดสวรรค์นิเวศน์ หาดจันทร์เพ็ญ หาดสันติสุข หาดปากน้ำท่าศาลา หาดสระบัว หาดบ้านหน้าทัพ หาดบ้านปากพะยิง และหาดปากน้ำปากนคร แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ หาดสระบัว ซึ่งรอบบริเวณเหมาะสำหรับนั่งพักผ่อน แต่ไม่เหมาะกับการเล่นน้ำทะเล เพราะค่อนข้างขุ่นและมีตะกอนโคลน
โบราณคดีวัดโมคลาน ตั้งอยู่หมู่ 12 ตำบลโมคลาน ห่างจากตัวอำเภอ 10 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 401 ถึงบ้านหน้าทัพเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงสาย 4022 อีก 6 กิโลเมตร เดิมเป็นเทวสถานของศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกายขนาดใหญ่มาก่อน อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 12–14 ต่อมาเทวสถานแห่งนี้ถูกทิ้งร้างไป จนสมัยอยุธยากลุ่มชุมชนได้มาสร้างวัดขึ้นใหม่ จนปี 2480 มีพระมาสร้างเป็นสำนักสงฆ์และเป็นวัด หลักฐานที่ยังคงมีอยู่ให้เห็น ได้แก่ แนวเสาหิน หินแกะสลักกรอบประตูอาคาร ธรณีประตู ชิ้นส่วนโยนิและศิวลึงค์ สระน้ำโบราณ แท่นตั้งเทวรูป กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2518

อำเภอสิชล
หาดสิชล หรือ ชาวท้องถิ่นเรียกกันว่า หัวหินสิชล เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อมานาน ของอำเภอสิชล บริเวณชายหาดเป็นแนวหินไปจนจดหาดทรายโค้ง เป็นบริเวณที่เล่นน้ำได้ บนหาดมีที่พักและร้านอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว
หาดหินงาม บริเวณชายหาดเต็มไปด้วยก้อนหินกลมเกลี้ยง มีสีสันสวยงามและเป็นที่มาของชื่อหาดหินงาม ตลอดแนวชายหาดไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกบริการ
หาดคอเขา (หาดปิติ) เป็นหาดที่ชาวท้องถิ่นนิยมไปพักผ่อน ชายหาดจะต่อจากหาดหินงาม บริเวณโดยรอบได้รับการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านที่พักและร้านอาหารสำหรับบริการนักท่องเที่ยว
การเดินทาง โดยทางหลวงหมายเลข 401 จากอำเภอเมือง ประมาณ 70 กิโลเมตร เข้าสู่ อำเภอสิชล จากตัวอำเภอสิชลแยกขวาไปทางบ้านปากน้ำ ระยะทาง 3 กิโลเมตร ถึงชายหาดสิชล และจากหาดสิชลไปอีก 1.5 กิโลเมตร ถึงหาดหินงาม และหาดคอเขา ซึ่งห่างจากหาดหินงาม 2 กิโลเมตร
อุทยานแห่งชาติน้ำตกสี่ขีด อยู่ในแนวเทือกเขานครศรีธรรมราชตอนบน ครอบคลุมพื้นที่ อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช และอำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2542 มีเนื้อที่ทั้งหมด 90,625 ไร่ มียอดเขาคีโหมดเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด สูง 1,303 เมตร ปกคลุมด้วยป่าดิบชื้นมีระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์ มีพรรณไม้ที่พบ ได้แก่ ไม้ในวงศ์ไม้ยาง ตะเคียนทอง หลุมพอ จำปาป่า สัตว์ป่าก็มีชุกชุม เช่น สมเสร็จ เลียงผา นกประจำถิ่นภาคใต้ที่หายาก อากาศค่อนข้างเย็นสบาย จะมีฝนตกชุกเดือนพฤศจิกายน
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในอุทยาน ได้แก่
น้ำตกสี่ขีด อยู่ติดกับที่ทำการอุทยาน เป็นน้ำตกหินปูนไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ ชั้นแรกไหลจากยอดเขาสูง 60 เมตร ไหลผ่านชั้นหินระยะทางยาว 12 กิโลเมตร มีแอ่งน้ำกว้างสามารถลงเล่นน้ำได้ บริเวณน้ำตกสวยงามร่มรื่นด้วยไม้กับสายน้ำ
น้ำตกหน่อตง เป็นน้ำตกที่สวยงาม ซ่อนตัวอยู่กลางป่า มีจำนวน 7 ชั้น อยู่อำเภอสิชล
ถ้ำเขาพับผ้า เป็นถ้ำหินปูนขนาดเล็กมีหินงอก หินย้อย ที่สวยงาม มีความลึกจากปากถ้ำประมาณ 60 เมตร อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน 5 กิโลเมตร
ถ้ำสวนปราง เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ภายในถ้ำกว้างขวาง มีหินงอกหินย้อยอยู่ตามผนังถ้ำ มองดูเหมือนผ้าม่านขนาดใหญ่ เป็นถ้ำที่ได้รับฉายาว่า “วิมานค้างคาว” เนื่องจากมีค้างคาวมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากตั้งอยู่ในใกล้เคียงหน่วยพิทักษ์อุทยานที่ สข.1 (สวนปราง)
น้ำตกภูริน อยู่ห่างจากถ้ำสวนปรางประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยที่ไหลผ่านภูเขาหินปูน และถ้ำที่มีหินงอกหินย้อย นอกจากนั้นในลำห้วยยังมีปลาชนิดต่าง ๆ อาศัยอยู่จำนวนมาก
ถ้ำโครำ เป็นถ้ำหินปูน มีปากถ้ำกว้างใหญ่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน บริเวณหน่วยพิทักษ์ที่ สข.1 ปากถ้ำสามารถมองเห็นทิวทัศน์สภาพป่าเบื้องล่างที่สวยงาม และยังเป็นที่อยู่ของเลียงผา ในภาษาท้องถิ่น เรียกว่า “โครำ” ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนที่หายาก
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ มีเส้นทางเดินป่าระยะสั้นและเส้นทางเดินป่าประเภทท่องไพร
สอบถามรายละเอียดและติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
อุทยานมีร้านค้าสวัสดิการและสถานที่กางเต็นท์บริการนักท่องเที่ยว ได้แก่ บริเวณที่ทำการอุทยาน หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สข.1 (สวนปราง) และน้ำตกภูริน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกสี่ขีด หมู่ 2 ตำบลสี่ขีด อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช 80120
การเดินทาง จากอำเภอเมืองนครศรีธรรมราชไปตามทางหลวงหมายเลข 401 ระยะทาง 69 กิโลเมตร ถึงสี่แยกอำเภอสิชล (สี่แยกต้นพยอม) เลี้ยวซ้ายระยะทาง 15 กิโลเมตร หรือจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 ระยะทาง 52 กิโลเมตร ถึงสามแยกเขาหัวช้างเลี้ยวขวาระยะทาง 10 กิโลเมตร
แหล่งโบราณคดีเขาคา อยู่ตำบลเสาเภา ตามทางหลวงหมายเลข 401 จากสี่แยกจอมพิบูลย์ ถึงกิโลเมตรที่ 99 แยกซ้ายเข้าถนนจินดาประชาสวรรค์ประมาณ 7 กิโลเมตร โบราณคดีเขาคามีอายุกว่า 1,500 ปี บริเวณ เขาคาเป็นศาสนสถานสำคัญในลัทธิไศวนิกาย ซึ่งเคารพนับถือพระศิวะหรือพระอิศวรเป็นเทพเจ้าสูงสุด มีเขาคาประดุจเขาพระสุเมรุเป็นศูนย์กลางและโบราณสถานเล็ก ๆ กระจายเป็นบริวารโดยรอบ มีการค้นพบโบราณวัตถุ ที่ใช้พิธีกรรม เช่น ฐานโยนิ ศิวลึงค์ ท่อโสมสูตร (ท่อน้ำมนต์) ตลอดจนซากโบราณสถานที่เป็นเทวสถาน สระน้ำโบราณ กรมศิลปากรได้ทำการบูรณะเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อปี พ.ศ. 2540

อำเภอขนอม
อุทยานแห่งชาติหาดขนอมหมู่เกาะทะเลใต้ ที่ทำการฯ ตั้งอยู่บนเส้นทางถนน ขนอม-โรงไฟฟ้า แยกซ้ายเข้าไปประมาณ 100 เมตร เนื้อที่ของอุทยานฯ ครอบคลุมพื้นที่ทางทะเล เกาะแก่ง ภูเขา และพื้นที่ชายฝั่งทะเลของอำเภอขนอมทั้งหมด รวมทั้งพื้นที่ทางทะเลสาบบางส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี อุทยานแห่งชาติหาดขนอมหมู่เกาะทะเลใต้ประกอบไปด้วยเกาะน้อย เกาะวังใน เกาะวังนอก เกาะแตน เกาะราบ เกาะท่าไร่ เกาะผี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอ่าวขนอม อ่าวท้องท่าค่ำ อ่าวท้องหลาง อ่าวท้องหยี อ่าวท้องยาง และภูเขาต่างๆ เช่น เขาพลายดำ เขาผีหงาย เขาคอ เขาเพลา เขาดาดฟ้า เป็นต้น
อ่าวขนอม เป็นอ่าวที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาอ่าวต่างๆ ของอำเภอขนอม อยู่ห่างจากตัวอำเภอ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยทางหลวงหมายเลข 4014 แยกจากทางหลวงสาย 401 ประมาณ 17 กิโลเมตร ผ่านตลาดสุขาภิบาลขนอมประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นจึงเลี้ยวขวาไปตามตัวหาดขนอม หาดขนอมนั้นเป็นชายฝั่งทะเลที่สวยงามยาวติดต่อกัน ซึ่งประกอบไปด้วย
หาดในเพลา เป็นหาดที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอขนอม และเป็นจุดที่เด่นที่สุดในการท่องเที่ยว ลักษณะหาดเป็นแนวยาวโค้งขนานกับแนวภูเขา ทัศนียภาพโดยรอบมีความเป็นธรรมชาติที่งดงาม หาดทรายขาวสะอาดเหมาะสำหรับเล่นน้ำ บริเวณหาดจะมีที่พัก ร้านอาหาร บริการนักท่องเที่ยว
หาดหน้าด่าน ลักษณะหาดเป็นแนวยาว ทรายขาว มีสวนมะพร้าวโดยรอบ สถานที่เงียบสงบสามารถมองทิวทัศน์ท้องทะเลสีครามสวยงาม
หาดในแปรด ลักษณะหาดเป็นแนวยาวโค้งสวยงาม บริเวณชายหาดมีโขดหินสลับบางแห่ง อยู่ระหว่างหาดหน้าด่านและหาดในเพลา เป็นอีกหาดที่มีความร่มรื่นของธรรมชาติที่ประทับใจผู้มาเยือน
อ่าวท้องหยี มีสภาพแวดล้อมเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ เหมาะสำหรับการพักแรมแบบแค้มปิ้ง หรือ เต็นท์ อ่าวท้องหยีมีพื้นที่อยู่ในวงล้อมของเขาเพลาและเขากลาง ทำให้ชายหาดสงบเงียบและเป็นส่วนตัว การพักแรมต้องติดต่อขออนุญาตจากเจ้าของสถานที่ การเดินทางใช้เส้นทางถนนลูกรังต่อจากหาดในเพลาที่บริเวณขนาบน้ำ รีสอร์ท ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร
ถ้ำเขาวังทอง ห่างจากตัวเมือง 77 กิโลเมตร เป็นถ้ำที่มีความงดงามทางธรรมชาติ แห่งหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช ภายในถ้ำเขาวังทองมีลักษณะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้างหลายห้อง แต่ละห้องมีหินงอกหินย้อยที่มีลักษณะรูปร่างต่างกันไป บ้างคล้ายเจดีย์ ไดโนเสาร์ น้อยหน่า หรือไข่ดาว เป็นต้น การเข้าชมบางห้องจะต้องใช้วิธีคลาน ลอด หรือปีนป่าย ภายในถ้ำมีไฟ ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง เสียค่าเข้าชม 30–50 บาท ผู้ที่ต้องการเข้าชมถ้ำวังทองต้องติดต่อขอกุญแจจากผู้ดูแลถ้ำที่บ้านตรงปากทางเข้าถ้ำ หรือ โทร. 0 9672 4995
การเดินทาง จากอำเภอขนอมเลี้ยวขวาตรงทางแยกไปยังอำเภอดอนสัก และเลี้ยวซ้ายอีกครั้งหนึ่ง ตรงปากทางเข้ามีศาลาที่พักผู้โดยสารเป็นที่สังเกต (ชื่อศาลาตันสกุล)
เข้าไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร ถึงปากทางเข้าถ้ำ
เขาพลายดำ เป็นภูเขาที่ติดทะเลเป็นรอยต่ออำเภอขนอมและอำเภอสิชล ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสถานที่พัฒนาและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเขาพลายดำ ตั้งอยู่ในตำบลทุ่งใส มีหาดที่สวยงาม คือ บริเวณหาดท้องยาง สามารถลงเล่นน้ำได้ เขาพลายดำมีสัตว์ป่าประเภทกินพืชอาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง เช่น กวาง กระจง และนกนานาชนิด การเดินทาง แยกจากตัวเมืองสิชลไปทางเหนือตำบลทุ่งใสประมาณ 12 กิโลเมตร
วัดกระดังงา เป็นวัดเก่าแก่ของอำเภอขนอม สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในอุโบสถมีภาพเขียนพุทธประวัติฝีมือวิจิตรบรรจง มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยาประดิษฐานอยู่ภายใน และมีโบราณวัตถุที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะเครื่องถ้วยชาม เป็นต้น วัดนี้ห่างจากถนนสายขนอม-ในเพลา ประมาณ 200 เมตร
วัดธาตุธาราม หรือ วัดเขาธาตุ มีเจดีย์ปะการังประดิษฐานอยู่บนเขาธาตุ ตามตำนานกล่าวว่าเจดีย์นี้ได้ทำการก่อสร้างหลังจากสร้างพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราชเสร็จเรียบร้อย โดยผู้มีจิตศรัทธาจากเมืองไชยาได้รวบรวมเงินทองและของมีค่าต่างๆ เพื่อไปบรรจุที่พระบรมธาตุเมืองนคร แต่ได้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วผู้มี จิตศรัทธาดังกล่าวจึงได้ร่วมใจกันสร้างเจดีย์ขึ้นบนเขาธาตุ ซึ่งสร้างด้วยหินปะการังทั้งองค์ องค์เจดีย์เป็นรูป โอคว่ำ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5-6 เมตร รอบๆ เจดีย์มีพระพุทธรูปแกะสลักหินทรายแดง ประดิษฐานบริเวณเจดีย์ เชื่อว่าคงเป็นแหล่งอารยธรรมทางด้านพุทธศาสนาในบริเวณอ่าวทางตอนเหนือของคาบสมุทรนี้ อยู่สมัยหนึ่ง
วัดเจดีย์หลวง ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 บ้านท่าใน ตำบลควนทอง เป็นชุมชนโบราณ ซึ่งมีร่องรอยของเนินดิน สระน้ำ หินชิ้นส่วนของเทวสถาน แท่นเทวรูป แท่นศิวลึงค์ ที่กระจัดกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก

อำเภอช้างกลาง
อำเภอช้างกลาง เป็นอีกหนึ่งอำเภอที่มีกิจกรรมทางการท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่กำลังได้รับความสนใจและเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวที่นิยมท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยมีรางวัลดีเด่นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards 2002) จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นสิ่งยืนยันคุณภาพของแหล่งท่องเที่ยว การดำเนินการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของอำเภอช้างกลางเป็นความร่วมมือของชุมชน โดยรวมตัวเป็นกลุ่มและจัดตั้งชมรมท่องเที่ยวเกษตรช้างกลางเป็นหน่วยกลาง ในการประสานการนำเที่ยวและการเข้าชมแหล่งต่าง ๆ ดังนี้
1. ศูนย์ส่งเสริมท่องเที่ยวเกษตรช้างกลาง เป็นที่ตั้งของชมรมท่องเที่ยวเกษตรช้างกลาง และเป็นศูนย์ประสานงานแหล่งท่องเที่ยวเกษตรและเครือข่ายแหล่งท่องเที่ยวเกษตรในอำเภอช้างกลาง มีห้องประชุม ห้องพักและลานกิจกรรมไว้บริการ ศูนย์ฯ ตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 27 และห่างจากอำเภอเมือง 36 กิโลเมตร สอบถามข้อมูลได้ที่ โทร. 0 7548 6616
2. แปลงดอกดาหลา มีการสาธิตการปลูกและจำหน่ายดอกดาหลา โดยจะมีผู้มารับซื้อถึงสวนทั้ง จากจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดอื่น ๆ ติดต่อข้อมูลได้ที่ ศูนย์ส่งเสริมท่องเที่ยวเกษตรช้างกลาง โทร. 0 7548 6616 การเดินทาง อยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 35–36 ระยะทางห่างจากอำเภอเมือง 56 กิโลเมตร ไปทางบ้านท้ายเหมือง ปากทางมีป้ายชี้ทางไปวัดหน้าเขาเหมน ระยะทางจากปากทางถึงแปลง ประมาณ 10 กิโลเมตร
3. จุดชมวิวเขาเหมน (เขาพระสุเมรุ) เป็นจุดที่มองเห็นทิวทัศน์ของเขาเหมนและบรรยากาศของสวนผลไม้ที่อยู่รายรอบ มีบริการเดินป่าและชมสวนผลไม้รวมทั้งมีบริการอาหารเครื่องดื่มและที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว ระยะทางห่างจากอำเภอเมือง 45 กิโลเมตร บริเวณกิโลเมตรที่ 36 สอบถามข้อมูลได้ คุณเรวัต ปรีชาวัย โทร. 0 9866 7462
4. แปลงดอกหน้าวัว วีราฟลอร่า แหล่งผลิตดอกหน้าวัวสายพันธุ์ฮอลแลนด์หลากสีกว่า 30 สายพันธุ์ เปิดให้เข้าชม ระยะทางห่างจากอำเภอเมือง 42 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่กิโลเมตร 37 ติดต่อข้อมูลได้ที่ 0 7548 6616
5. ฟาร์มเพาะพันธุ์นกยูง เป็นแหล่งเพาะพันธุ์นกยูงสายพันธุ์อินเดีย และจำหน่ายลูกนกยูง อายุตั้งแต่ 1 เดือน- 1 ปี ในบริเวณสวนทุเรียน นอกจากนั้นยังมีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว ราคาหลังละ 300 บาท สนใจสอบถามได้ที่คุณสุนทร สถาพร โทร. 0 1280 4121
6. ชมรมคนรักเห็ด แหล่งเพาะและจำหน่ายเห็ดหลากชนิด อาทิ เห็ดหอม เห็ดหูหนู เห็ดนางฟ้า และเป๋าฮื้อ นอกจากนี้ยังจำหน่ายอุปกรณ์และถุงเพาะเชื้อเห็ด รวมทั้งให้คำแนะนำในการเพาะเลี้ยงเห็ดแก่เกษตรกรและผู้สนใจทั่วไป ติดต่อคุณสุรินทร์ รอดพ้น โทร. 0 1747 4314
7. พรเพชรฟาร์ม ฟาร์มเพาะพันธุ์ปลาแรดและจำหน่ายลูกปลาพันธุ์ต่าง ๆ เช่น ปลาทับทิม ปลาสลิด และปลาจาระเม็ด บนเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ อยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 42–43 ระยะทางห่างจากอำเภอเมือง 52 กิโลเมตร ติดต่อได้ที่ คุณจารึก นกแก้ว โทร. 0 7548 6668, 0 7548 6256
8. แปลงผักปลอดสารพิษ ดำเนินการโดยองค์การสวนยาง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นาบอน) ผลิตพืชผักสวนครัว อาทิ ถั่วฝักยาว แตงกวา ผักบุ้ง มะเขือยาว ข้าวโพดหวาน และมันเทศ โดยปลูกแซมในสวนยางพาราบนเนื้อที่ 80 ไร่ ติดต่อเข้าชมได้ที่ คุณสุรพงษ์ เจริญฤทธิ์ โทร. 0 7549 2570
9. กลุ่มเลี้ยงผึ้งควนส้าน เป็นกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงไทย ประมาณ 200 รัง โดยเลี้ยงในสวนผลไม้เกษตรกรด้วยการขายน้ำผึ้ง และยังผลพลอยได้จากการให้ผึ้งเป็นตัวผสมเกษรดอกไม้ ช่วยให้เกษตรกรได้ผลผลิตเพิ่มอีกทางหนึ่ง นอกจากการจำหน่ายน้ำผึ้งแล้ว ทางกลุ่มยังผลิตอุปกรณ์เลี้ยงผึ้งจำหน่ายแก่เกษตรกรและผู้สนใจอีกด้วย การเดินทางใช้เส้นทาง 4015 และแยกขวาที่กิโลเมตรที่ 35–36 เข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร ถึงหน้าวัดควนส้านเลี้ยวขวาตรงทางแยกตรงข้ามประตูวัด เข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นถนนลูกรังผ่านสวนยางพาราและข้ามสะพานแล้วเลี้ยวซ้ายอีก 200 เมตร ถึงที่ทำการกลุ่มติดต่อที่ ศูนย์ส่งเสริมท่องเที่ยวเกษตรช้างกลาง โทร. 0 7548 6616
น้ำตกท่าแพ อยู่หมู่ที่ 14 ตำบลช้างกลาง สามารถเดินทางจากตัวเมืองนครศรีธรรมราชไปตามเส้นทางสายนครศรีธรรมราช-จันดี-ฉวาง-บ้านส้อง (ทางหลวงหมายเลข 4015) 36 กิโลเมตร และมีทางแยกขวามือมีป้ายบอกทางเข้าน้ำตกประมาณ 2 กิโลเมตร น้ำตกท่าแพมีความสวยงามไม่แพ้ที่อื่น มีทั้งหมด 10 ชั้น ชั้นที่นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำได้ คือ หนานแพน้อย หนานนางครวญ และหนานเตย
น้ำตกสวนอาย อยู่หมู่ที่ 5 ตำบลคลองละอาย สามารถเดินทางจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ไปตามเส้นทางสายนครศรีธรรมราช-ลานสกา-จันดี (ทางหลวงหมายเลข 4015) ระยะทาง 55 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่สวยงามมี 5 ชั้น ชั้นที่สามารถเล่นน้ำได้ คือ หนานช่องส้มหลอด หนานต้นเหรียง และหนานเลากา
น้ำตกสวนขัน อยู่หมู่ที่ 3 ตำบลสวนขัน สามารถเดินทางจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ไปตามเส้นทางสาย นครศรีธรรมราช-ลานสกา-จันดี (ทางหลวงหมายเลข 4015) ระยะทางประมาณ 55 กิโลเมตร และต่อรถโดยสารประจำทางสายจันดี-พิปูน ระยะทาง 4 กิโลเมตร บริเวณรอบน้ำตกยังเป็นป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์สวยงาม เหมาะแก่การเดินป่า ชมธรรมชาติ ศึกษาพันธุ์ไม้

อำเภอถ้ำพรรณรา
วัดถ้ำทองพรรณรา อยู่หมู่ที่ 9 ตำบลถ้ำพรรณรา ห่างจากถนนเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 41) หลักกิโลเมตรที่ 192–193 ประมาณ 2 กิโลเมตร ห่างจากที่ว่าการอำเภอ 1 กิโลเมตร ตำนานเล่าว่ามีชีปริงและชีปรางนำสัมภาระและผู้คนเดินทางมาทางทะเลเพื่อนำแก้วแหวนเงินทองไปสร้างพระบรมธาตุ เมื่อมาถึงอู่เรือ (ปัจจุบันคือบ้านปากรา) ได้ทราบว่าพระบรมธาตุสร้างเสร็จแล้ว จึงได้ขึ้นบกหาสถานที่ที่เหมาะสมคือ ถ้ำทอง แล้วได้สร้างพระพุทธไสยาสน์ในถ้ำดังกล่าว และนำแก้วแหวนเงินทอง บรรจุไว้ในองค์พระพุทธไสยาสน์นั้นด้วย เมื่อถึงแก่กรรม ลูกหลานจึงได้สร้างพระพุทธรูปขึ้น 2 องค์ นำกระดูกของชีปริง ชีปรางบรรจุ พอถึงวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11 จะมีการทำบุญบูชาพระพุทธไสยาสน์และพระพุทธรูปที่บรรจุกระดูกชีปริง ชีปราง ซึ่งต่อมาเรียกว่า พระปริง พระปราง เป็นประจำตลอดมาทุกปี ซึ่ง “ประเพณีขึ้นถ้ำ” ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ประชาชนทั่วสารทิศมานมัสการพระพุทธไสยาสน์ แก้บนด้วยขนมพอง ขนมลา และเที่ยวชมถ้ำต่าง ๆ ภายในวัด ซึ่งมีอยู่หลายถ้ำ ทั้งเป็นถ้ำแจ้งและถ้ำมืด

อำเภอพิปูน
น้ำตกระแนะ ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลพิปูน เป็นน้ำตกสูง 10 ชั้น รอบบริเวณร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ การเดินทาง จากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ไปตามเส้นทางสายนครศรีธรรมราช-ลานสกา-จันดี (ทางหลวงหมายเลข 4015) ระยะทางประมาณ 55 กิโลเมตร (เส้นทางเดียวกับทางไปน้ำตกสวนอายและสวนขัน) จากนั้นใช้เส้นทางสายจันดี-พิปูน ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร ก่อนถึงที่ว่าการอำเภอพิปูน 1 กิโลเมตร ทางแยกขวามือมีป้ายบอกเข้าน้ำตกคลองระแนะ ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร

อำเภอนาบอน
น้ำตกคลองจัง เป็นน้ำตกขนาด 7 ชั้น ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราชและภาคใต้ ไหลจากเทือกเขาเหมน เป็นยอดเขาที่มีความสูงรองจากเขาหลวงและเขานัน (เทือกเขานครศรีธรรมราช) บริเวณน้ำตกยังเป็นป่าที่สมบูรณ์ การเดินทาง จากตัวเมืองใช้เส้นทางสายนครศรีธรรมราช-ทุ่งสง (ทางหลวงหมายเลข 401) ถึงสามแยกควนไม้แดง เลี้ยวเข้านาบอน (ทางหลวงหมายเลข 4230) ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร

อำเภอปากพนัง
พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เกิดจากโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุงและสงขลา ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในบริเวณสถานที่ดำเนินโครงการพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ประกอบด้วยห้องทรงงานส่วนพระองค์ ห้องประชุมและห้องนิทรรศการปากพนังในอดีต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังฯ โทร. 0 7551 7933, 0 7551 7534
บ้านรังนก อำเภอปากพนังเป็นอำเภอที่มีชื่อในเรื่องของนกนางแอ่นที่เข้ามาทำรังอยู่ในชุมชนเมืองปรากฎว่ามีบ้านและตึกแถวหลายหลังที่ถูกปิดลง เนื่องจากมีนกนางแอ่นจำนวนมากเข้าไปอาศัยอยู่และทำรังในบ้านเหล่านั้น เช่นเดียวกับนกที่อาศัยอยู่ตามถ้ำหรือเกาะ แต่เนื่องจากบ้านหรือตึกแถวที่มีนกนางแอ่นอาศัยเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล จึงไม่สะดวกในการเปิดให้เข้าชมโดยทั่วไป
วัดนันทาราม เดิมชื่อวัดใต้ เป็นวัดที่ประดิษฐานหลวงพ่อผุด พระพุทธรูปหินทรายแดง ศิลปสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในวัดยังได้เก็บรักษาศิวลึงค์องค์ใหญ่องค์หนึ่งพบที่โบราณสถานเขาคา อายุประมาณ 1,200 ปี ใน ราวศตวรรษที่ 12–14 สลักจากหินปูนและสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่พบในภาคใต้ วัดนันทารามตั้งอยู่ที่ถนนชายน้ำ ปากพนังฝั่งตะวันออก
ชายทะเลปากพนังและแหลมตะลุมพุก เป็นสถานที่รำลึกเหตุการณ์การเกิดมหาวาตภัยครั้งใหญ่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี พ.ศ. 2505 ลักษณะของชายหาดปากพนังเป็นชายหาดยาวไปตามชายฝั่งทะเล มีแหลมตะลุมพุกเป็นแหลมทรายรูปจันทร์เสี้ยวยื่นไปในอ่าวไทย ซึ่งอยู่บริเวณตอนบนของอำเภอปากพนัง ด้านที่ติดกับทะเลด้านใน (อ่าวนครฯ) มีประชากรตั้งถิ่นฐานอยู่ ส่วนด้านนอกที่ติดกับอ่าวไทยเป็นหาดทรายและมีต้นสนขึ้นเป็นแนวยาว การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 4013 (นครศรีธรรมราช-ปากพนัง) มีทางแยกเข้าสู่แหลมตะลุมพุก ประมาณ 16 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางมีการทำนากุ้งสองข้างทางสลับกับแนวป่าชายเลน

อำเภอทุ่งสง
อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง หรือเรียกกันทั่วไปว่า “น้ำตกโยงใสใหญ่” มีพื้นที่ประมาณ 126,675 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอทุ่งสง อำเภอฉวาง อำเภอนาบอน ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อปี 2534 มีสภาพป่าและทิวทัศน์ที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามอีกแห่งหนึ่ง พื้นที่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนทอดยาวตามแนวเหนือมาใต้ ได้แก่ เขาเหมน เขาทง เขาวังหีบ เขาพระ เขาหลวง เขาโยง เขาลำโรม เขาปากแพรก เขาปลายเปิด เป็นต้น เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของลุ่มน้ำตาปี ลุ่มน้ำปากพนัง และลุ่มน้ำกันตัง และมียอดเขาเหมน เป็นยอดเขาสูงสุด มีความสูง 1,235 เมตรจากระดับน้ำทะเล นอกจากนั้นยังพบสัตว์ป่าและพืชต่าง ๆ ที่น่าสนใจและหายากหลายชนิด อุทยานมีฝนตกชุกเกือบทั้งปี แต่ก็สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคม
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ได้แก่
น้ำตกโยง เกิดจากเทือกเขาลำโรม เขาปากแพรกและเขาโยง สูง 7 ชั้น ชั้นที่ 1 สูง 30 เมตรเป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นกระแสน้ำที่รวมกันเป็นเกลียวเชือกสีขาวเส้นมหึมา ตกจากหน้าผาที่สูงชันสู่เบื้องล่างที่มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาด 20 x 30 เมตร ลึก 10–15 เมตร บริเวณที่น้ำตกลงมาเป็นกระแสน้ำวนอันตราย มีน้ำไหลตลอดปี น้ำตกอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน 300 เมตร
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ บริเวณที่ทำการอุทยานมี 2 เส้นทาง คือ ระยะทาง 1 กิโลเมตรและ 3 กิโลเมตร ตามทางเดินจะมีป้ายสื่อความหมาย สามารถเดินเองหรือมีเจ้าหน้าที่นำทางก็ได้
นอกจากนี้ในเขตพื้นที่อุทยานซึ่งอยู่ในอำเภออื่น ๆ มีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น
น้ำตกวังปริง อยู่ที่หมู่ 1 ตำบลถ้ำใหญ่ อำเภอทุ่งสง มีลานหินเป็นบริเวณกว้าง เหมาะสำหรับการพักผ่อน ห่างจากที่ทำการอุทยาน 13 กิโลเมตร
น้ำตกหนานเตย อยู่ที่หมู่ 8 ตำบลนาหลวงเสน มี 3 ชั้น ชั้นที่ 3 มีต้นเตยลักษณะเด่น ห่างจากที่ทำการอุทยาน 18 กิโลเมตร
น้ำตกหนานปลิว อยู่ที่หมู่ 1,4 ตำบลนาหลวงเสน มี 3 ชั้น น้ำตกชั้นที่ 3 เป็นชั้นที่สวยงามที่สุด โดยเดินทางจากอำเภอทุ่งสงตามถนนยุทธศาสตร์-บ้านนาประดิษฐ์ ระยะทาง 7 กิโลเมตร เลี้ยวขวาระยะทาง 4 กิโลเมตร น้ำตกหนานปลิว 2 ตั้งอยู่หมู่ 5,7 ตำบลนาหลวงเสน มี 2 ชั้น คือหนานตากผ้า และหนานปลิว โดยเดินทางจากอำเภอทุ่งสงตามถนนยุทธศาสตร์-บ้านนาประดิษฐ์ ระยะทาง 6 กิโลเมตร ถึงฝายกั้นน้ำบ้านประดู่ เดินเท้าระยะทาง 4 กิโลเมตร
ค่ายผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ตั้งอยู่หมู่ 1 ตำบลถ้ำใหญ่ เป็นสถานที่อยู่และหลบภัยของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในอดีต ได้แก่ หลุมหลบภัย หลุมขวาก บังเกอร์ กะทะหุงข้าว ลานกว้างเป็นสถานศึกษา สถานพยาบาล ห้องประชุม ห่างจากอุทยาน 6 กิโลเมตร
ยอดเขาเหมน อยู่อำเภอนาบอน เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด อากาศหนาวเย็นตลอดปี สภาพป่าเป็นป่าดิบเขามีทุ่งหญ้าและกล้วยไม้ เช่นรองเท้านารี สามารถพบเห็นได้ในหน้าหนาว ในตอนเช้ามีทะเลหมอกให้ชมเกือบ ทุกวัน โดยเดินทางจากอำเภอทุ่งสง ตามทางหลวงหมายเลข 41 ระยะทาง 15 กิโลเมตร หรือเดินทางด้วยเท้าจากน้ำตกคลองจังถึงยอดเขาพระสุเมรุ (ยอดเขาเหมน) ระยะทาง 6 กิโลเมตร
น้ำตกคลองจัง อยู่อำเภอนาบอน มีน้ำตก 7 ชั้น มีแอ่งน้ำใหญ่บริเวณชั้นที่ 1 และชั้นที่ 4 ห่างจากอุทยาน 20 กิโลเมตร
น้ำตกหนานโจร อยู่อำเภอลานสกา มี 2 ชั้น บริเวณน้ำตกมีต้นปาล์มร๊อค (ต้นลานสกา) เดินทางจากอำเภอลานสกา ตามถนนสายลานสกา-บ้านน้ำรอบ ระยะทาง 8 กิโลเมตร
น้ำตกคูหาสวรรค์ อยู่อำเภอร่อนพิบูลย์ มี 7 ชั้น สภาพน้ำตกคล้ายหินก้อนใหญ่มหึมาตั้งอยู่ กลางน้ำตก น้ำไหลลงมาทั้งสองข้าง มีหน้าผาที่สูงชัน การเดินทางตามทางหลวงหมายเลข 403 ระยะทาง 15 กิโลเมตร แยกซ้ายมือข้างที่ว่าการอำเภอร่อนพิบูลย์ ระยะทาง 11 กิโลเมตร
จุดชมวิวยอดเขาคูหา ตั้งอยู่ตำบลร่อนพิบูลย์ อำเภอร่อนพิบูลย์ ห่างจากอุทยาน 15 กิโลเมตร ด้านตะวันออกจะมองเห็นตัวเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอพระพรหม ชายทะเล แหลมตะลุมพุกไปถึงอำเภอเชียรใหญ่ ด้านตะวันตก จะเห็นทิวทัศน์ผังเมือง อำเภอทุ่งสง ยอดเขาพระสุเมรุ ยอดเขาวังหีบ ทะเลหมอก ทางด้านทิศเหนือ จะมองเห็นทิวทัศน์เขาหลวง สามารถขับรถ ถึงจุดชมวิวได้ รถที่ใช้ควรเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ และก่อนจะขึ้นไปจุดชมวิว จะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ อุทยานก่อนเพราะเส้นทางขึ้นรถไม่สามารถสวนกันได้
อุทยานไม่มีบ้านพักบริการแต่มีสถานที่กางเต็นท์ พร้อมเต็นท์ให้เช่า นอกจากนั้นมีร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึกบริการอีกด้วย สอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง หมู่ที่ 7 ตำบลถ้ำใหญ่ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80110 โทร. 0 7535 4967
การเดินทาง จากตัวเมืองใช้เส้นทางนครศรีธรรมราช-ทุ่งสง ระยะทาง 50 กิโลเมตร แล้วให้แยกเข้าไปทางขวาอีกประมาณ 3 กิโลเมตร
ถ้ำตลอด ห่างจากที่ว่าการอำเภอทุ่งสง 500 เมตร เลี้ยวซ้ายทางไปโรงพยาบาลทุ่งสง เป็นถ้ำเล็ก เกิดจากภูเขาชัยชุมพล ตัวถ้ำสามารถเดินทะลุได้ตลอด จึงได้ชื่อว่าถ้ำตลอดหรือถ้ำหลอด ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เป็นเรื่องราวพุทธประวัติเขียนโดยอาจารย์แนบ ทิชินพงศ์ จิตรกรชาวนครศรีธรรมราชที่มีชื่อเสียง รอบบริเวณถ้ำเป็นสวนสาธารณะไว้สำหรับพักผ่อน

Source : tourismthailand.org