สถานที่ท่องเที่ยวในราชบุรี

สถานที่ท่องเที่ยวราชบุรี

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวราชบุรี

อำเภอเมือง ราชบุรี
• ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง อยู่ในบริเวณกรมการทหารช่างราชบุรี ห่างจากตัวเมืองประมาณ 600 เมตร เป็นหลักเมืองเก่าที่สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
• พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี ตั้งอยู่ริมถนนวรเดช ตำบลหน้าเมือง ใกล้กับหอนาฬิการิมแม่น้ำแม่กลอง อาคารพิพิธภัณฑ์เคยใช้เป็นศาลากลางจังหวัดมาก่อน สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อปี พ.ศ.2465 และได้รับการบูรณะเพื่อจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในปี พ.ศ.2431 จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับราชบุรีในทุกด้าน อาทิ ประวัติศาสตร์ โบราณคดี ชาติพันธุ์วิทยา ธรณีวิทยา ศิลปะพื้นบ้าน วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของกลุ่มชนต่าง ๆ ในจังหวัดราชบุรี เช่น ลาวโซ่ง กะเหรี่ยง และไทยยวน รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ โบราณวัตถุที่โดดเด่นนอกจากพระแสดงดาบราชศัตราประจำมณฑลราชบุรีแล้ว ยังมี พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมี ศิลปะขอมแบบบายน เป็น 1 ใน 5 องค์ที่ขุดพบในประเทศไทยที่มีสภาพสมบูรณ์งดงามที่สุด พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00–1600 น.ยกเว้นวันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท สอบถามรายละเอียดโทร. (032) 321513
• หลวงพ่อแก่นจันทน์ ประดิษฐานอยู่ที่วัดช่องลม ใกล้บริเวณเมืองเก่า ริมถนนวรเดช ใจกลางเมืองราชบุรี เป็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร สร้างด้วยโลหะทองคำสัมฤทธิ์ ส่วนล่างแกะสลักจากไม้จันทน์ซึ่งเป็นไม้เนื้อหอม สูงประมาณ 2.26 เมตร เป็นที่เคารพนับถือกันมาก
• วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรวิหาร หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดหน้าพระธาตุ เป็นวัดเก่าแก่ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี จากเค้ารอยที่ปรากฏที่องค์พระปรางค์และกำแพงแก้วที่มีพระพุทธรูปประทับในซุ้มเรือนแก้วรอบวัด อันเป็นลักษณะตามแบบศิลปะบายนของขอม ทำให้ทราบว่าภายหลังจากเมืองทวารวดีที่คูบัวเริ่มเสื่อมลง ศูนย์กลางชุมชนได้ย้ายมาอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลองซึ่งตรงกับช่วงที่ขอมเริ่มขยายอิทธิพลมาถึงราชบุรีและเพชรบุรีพอดี คือ ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15-18 และหลังจากสมัยขอมแล้วจึงได้มีการดัดแปลงสถานที่แห่งนี้มาเป็นวัดในพุทธศาสนา ปัจจุบันองค์พระปรางค์มีความสูง 24 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมบริเวณฐานระเบียงมีทางเดินได้รอบ ที่วิหารคตรอบลานพระปรางค์ มีพระพุทธรูปศิลาสมัยทวารวดี สมัยลพบุรีและสมัยอยุธยาประดิษฐานอยู่โดยรอบ มีบันไดและช่องคูหาเข้าไปถึงองค์พระปรางค์ได้
วัดหนองหอย เป็นที่ตั้งของพระวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์กวนอิม ตั้งอยู่บนยอดเขาในเขตตำบลเขาเหลือ ห่างจากตัวจังหวัดราชบุรีประมาณ 22 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางถนนสายเขางู–เบิกไพรประมาณ 5 กิโลเมตร รถยนต์สามารถขึ้นไปถึงบริเวณวิหารได้
• เมืองโบราณบ้านคูบัว ตั้งอยู่ที่ตำบลคูบัว ทางเข้าวัดโขลงสุวรรณคีรี ห่างจากตัวเมืองราชบุรีไปทางทิศใต้ตามถนนท้าวอู่ทองประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นแหล่งโบราณสถานที่ขุดค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีหลายอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า ดินแดนราชบุรีแห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นเมืองท่าที่เจริญรุ่งเรืองในยุคทวารวดี สถาปัตยกรรมในเมืองโบราณคูบัวได้รับอิทธิพลทางด้านศิลปะจากช่างสมัยราชวงศ์คุปตะ ประเทศอินเดีย โดยมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า พระพุทธศาสนาได้เจริญรุ่งเรืองในประเทศไทยมามากกว่า 1,000 ปี ส่วนโบราณวัตถุสำคัญต่าง ๆ ที่ค้นพบโดยเฉพาะเศียรพระพุทธรูปสมัยโบราณ จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี และบางส่วนเก็บรักษาไว้ที่วัดโขลงสุวรรณคีรี
• ศูนย์สืบทอดศิลปผ้าจก ราชบุรี อยู่ที่ตำบลคูบัว เป็นศูนย์รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับศิลปผ้าจกไทยยวน เก็บรักษาตัวอย่างผ้าจกที่มีลวดลายดั้งเดิม มีคอมพิวเตอร์ไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้เปิดดูประวัติและเรื่องราวต่าง ๆ นอกจากนี้มีการสาธิตการทอผ้าและจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.
• พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาแก่นจันทน์ ริมถนนเพชรเกษม นอกจากจะเป็นอนุสรณ์สถานเพื่อสักการะและรำลึกถึงพระองค์ท่านแล้ว บริเวณโดยรอบยังได้รับการปรับปรุงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย
• เขาแก่นจันทน์ เดิมชื่อเขาจันทน์แดง มีความสูงประมาณ 141 เมตร เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจังหวัด มีถนนตัดขึ้นไปถึงยอดเขา บนยอดมีวิหารประดิษฐานพระพุทธนิโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่า “พระสี่มุมเมือง” เป็นพระ 1 ใน 4 องค์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น แล้วพระราชทานไปประดิษฐานไว้ ณ เมืองต่าง ๆ สี่เมืองได้แก่ ราชบุรี ลำปาง สระบุรี และพัทลุง
• วัดเขาวัง ตั้งอยู่บนเขาสัตตนาถ ซึ่งเป็นภูเขาลูกย่อมๆ สูงประมาณ 44 เมตร อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันตกประมาณ 2 กิโลเมตร มีทางรถยนต์ขึ้นถึงยอดเขา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้สร้างพระราชวังบนเขานี้เมื่อ พ.ศ.2416 เช่นเดียวกับที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงรับสั่งให้สร้างนารายณ์ราชนิเวศน์ ที่เมืองลพบุรี แต่พระองค์ได้เคยเสด็จไปประทับเพียงครั้งเดียวเมื่อพ.ศ. 2420 เพื่อออกรับราชทูตโปรตุเกส หลังจากนั้นไม่ได้เสด็จไปประทับอีกเลยจนตลอดรัชกาล ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯ อุทิศให้เป็นธรณีสงฆ์ ซึ่งมีผู้มีศรัทธาได้ซ่อมแซมบางส่วนดัดแปลงตำหนักต่างๆ เป็นโบสถ์ กุฎิสงฆ์ และต่อมาได้ยกขึ้นเป็นวัดในที่สุด
เขาหลวง อยู่ในเขตตำบลอ่างทอง บนยอดเขาเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินซึ่งเป็นที่ เคารพนับถือของประชาชนทั่วไป ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี มักมีผู้มานมัสการองค์พระนับเป็นเวลากว่า 200 ปีมาแล้ว
• เขาน้อย อยู่เลยเขาหลวงไปตามถนนเพชรเกษม ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นสถานที่ตั้งของวัดเขาน้อยเทียมสวรรค์อันเป็นวัดเก่าแก่ พระอุโบสถหลังเก่าสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป 2 องค์ ประทับนั่งหันหลังให้กัน ทำด้วยศิลาแลงชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อเขาน้อย ซึ่งเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์
• สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดราชบุรี
• ข้อมูลท่องเที่ยว อำเภอดำเนินสะดวก ราชบุรี

• ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากของราชบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพฯราว 80 กิโลเมตร ในราวปี พ.ศ. 2409 รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯให้ขุดคลองดำเนินสะดวกระยะทางกว่า 32 กิโลเมตร เชื่อมแม่น้ำแม่กลองที่บางนกแขวกกับแม่น้ำท่าจีนที่ประตูน้ำบางยาง และมีคลองซอยเล็ก ๆ มากมาย ทำให้ชาวบ้านในราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร สามารถติดต่อกันทางน้ำได้สะดวก
ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกในฐานะแหล่งท่องเที่ยวครั้งแรกเมื่อปี 2510 ในภาพของตลาดลอยน้ำที่คราคร่ำไปด้วยเรือพายลำย่อม บรรทุกสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ พ่อค้าแม่ค้าสวมเสื้อผ้าโทนสีเข้มแบบชาวสวน ใส่หมวกงอบใบลาน พายเร่ขายแลกเปลี่ยนสินค้าในยามที่เส้นทางคมนาคมทางน้ำเป็นหัวใจหลัก ปัจจุบันตลาดน้ำดำเนินสะดวกเริ่มต้นค้าขายกันตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงช่วงประมาณ 11.00 น.
• การเดินทางไปตลาดน้ำดำเนินสะดวก
• รถยนต์ จากกรุงเทพฯสามารถเดินทางไปตลาดน้ำดำเนินสะดวกได้สองเส้นทางคือ
1. เดินทางไปตามถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านบางแค สวนสามพราน นครชัยศรี นครปฐม เลยกิโลเมตรที่ 83 ไปเล็กน้อย จะพบแยกบางแพ เลี้ยวซ้ายมือไปตามทางหลวงหมายเลข 325 อีกประมาณ 25 กิโลเมตร แยกขวาอีก 1 กิโลเมตร
2. เดินทางไปตามสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ระยะทาง 63 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 326 ผ่านตัวเมืองสมุทรสงคราม เลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 325 ไปประมาณ 12 กิโลเมตรถึงทางเข้าตลาดน้ำซึ่งอยู่ก่อนถึงสะพานธนะรัชต์ 200 เมตรและ แยกซ้ายไปอีก 1 กิโลเมตร
• รถประจำทาง มีรถโดยสารปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-ดำเนินสะดวก ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี เที่ยวแรกออกตั้งแต่เวลา 05.00 น. ถึงปากทางเข้าตลาดน้ำดำเนินสะดวก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นสามารถโดยสารรถสองแถวเข้าไปถึงตลาดน้ำดำเนินสะดวกเป็นระยะทางอีก 1 กิโลเมตร สอบถามสถานีขนส่งสายใต้ โทร. 435-1199, 435-1200
• นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปกับรถโดยสารสายอื่นได้ เช่น สายกรุงเทพฯ-ราชบุรี, กรุงเทพฯ-เพชรบุรี(สายเก่า) แล้วลงตรงสี่แยกบางแพ ต่อจากนั้นต่อรถสองแถวซึ่งวิ่งระหว่างทางแยกบางแพไปดำเนินสะดวก มีรถออกทุก 10 นาที
• วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม ตั้งอยู่ที่ตำบลแพงพวย หากเดินทางมาจากบางแพ วัดอยู่ก่อนถึงแยกดำเนินสะดวก 10 กิโลเมตร ด้านขวามือ ภายในวัดเก็บรักษาพระพุทธรูปหยกปางต่าง ๆ มีอุทยานการการศึกษาในบริเวณสวนป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ พื้นที่ราว 200 ไร่ และได้รับรางวัลสวนป่าดีเด่นจากกรมป่าไม้ ประจำปี 2539 นอกจากนี้ยังเป็นสำนักเรียนภาษาบาลีประจำจังหวัด มีนิทรรศการเกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุ และสอนวิปัสสนาสำหรับชาวไทยและชาวต่างประเทศ สอบถามรายละเอียดโทร.(032) 254650, 253352 หรือดูเวบไซต์ของวัด www.concentration.org

อำเภอบ้านโป่ง ราชบุรี
• ในอดีตสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บ้านโป่งเคยเป็นค่ายทหารญี่ปุ่น เป็นจุดเริ่มต้นทางรถไฟสายมรณะ ณ สถานีรถไฟหนองปลาดุก ก่อนผ่านเข้าสู่กาญจนบุรี เพื่อขยายกำลังไปสู่พม่า ปัจจุบันเป็นแหล่งอุตสาหรรมประกอบรถบัสที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งจนได้รับขนานนามว่า “ดีทรอยต์แห่งเมืองไทย”
• พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วง ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านม่วง จากตัวเมืองราชบุรีไปตามทางหลวงหมายเลข 4 แยกเข้าอำเภอบ้านโป่งผ่านทางหลวงหมายเลข 3089 โคกสูง-เบิกไพร จากนั้นข้ามสะพานแม่น้ำแม่กลองไปเพียงเล็กน้อยก็จะถึงพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วง เป็นแหล่งค้นคว้าประวัติความเป็นมา วิถีชีวิตและวัฒนธรรมชุมชนท้องถิ่นชาวมอญตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากโบราณวัตถุ คัมภีร์ใบลาน ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่บ่งบอกถึงมรดกทางภูมิปัญญาท้องถิ่นที่น่าสนใจแล้ว ยังให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของลุ่มน้ำแม่กลองในอดีต ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจสังคม วัฒนธรรมของชุมชนบ้านม่วงกับชุมชนในเขตอำเภอบ้านโป่งและอำเภอโพธาราม
• พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วงนี้เปิดให้เข้าชมในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. โดยไม่เก็บค่าเข้าชม หากสนใจเข้าชมเป็นหมู่คณะควรติดต่อล่วงหน้าหรือทำหนังสือเรียนเจ้าอาวาสวัดม่วง สอบถามรายละเอียด โทร. (032) 372548
• บึงกระจับ เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในเขตอำเภอบ้านโป่งและอำเภอโพธาราม จากกรุงเทพฯไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ก่อนถึงอำเภอบ้านโป่งประมาณ 3 กิโลเมตร จะเห็นวัดบึงกระจับอยู่ทางขวามือ เข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร บึงกระจับแห่งนี้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตก

อำเภอโพธาราม ราชบุรี

• พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน เป็นโครงการตามพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี อยู่ห่างจากตัวอำเภอโพธารามประมาณ 10 กิโลเมตร ผู้ก่อตั้งโครงการอนุรักษ์หนังใหญ่คือ ท่านพระครูศรัทธาสุนทร อดีตเจ้าอาวาสวัดขนอน ลักษณะเป็นเรือนไทยเก็บรักษาตัวหนังใหญ่ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นการละเล่นชั้นสูงจำนวน 313 ตัวในสภาพสมบูรณ์ นับเป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่ยังมีหนังใหญ่เหลือให้ชมได้อย่างครบชุดเช่นนี้ และยังคงมีการจัดการแสดงหนังใหญ่สืบทอดต่อกันมา นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการประวัติความเป็นมาของหนังใหญ่ และกรรมวิธีการแกะสลักตัวหนังใหญ่ ทางวัดได้จัดแสดงเชิดหนังใหญ่ทุกวันเสาร์เวลา 10.00-11.00 น.เพียงรอบเดียวโดยนักเรียนจากโรงเรียนวัดขนอน สำหรับวันธรรมดาโปรดติดต่อล่วงหน้า โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เจ้าอาวาสวัดขนอน โทร. (032) 233386
• ค้างคาวเขาช่องพราน อยู่ที่ตำบลเตาปูน ห่างจากตัวอำเภอโพธารามไปทางทิศตะวันตกประมาณ9 กิโลเมตร ถ้ามาจากตัวเมืองราชบุรี ใช้เส้นทางเขางู-เบิกไพรไปประมาณ 17 กิโลเมตร บริเวณเขาช่องพรานมีถ้ำที่สวยงามคือ “ถ้ำพระนอน” มีพระพุทธรูปภายในถ้ำมากกว่าร้อยองค์และมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ มีความยาวถึง9 เมตร แต่สิ่งที่สร้างชื่อให้เขาช่องพราน คือ ฝูงค้างคาวนับล้านตัว ที่กรูกันบินออกจากถ้ำพวยพุ่งเป็นสายสีดำ นานนับชั่วโมงทุกเย็นในช่วงใกล้พลบค่ำ ประมาณ 18.00 น. ในช่วงฤดูร้อนฝูงค้างคาวจะบินไปทางทิศตะวันออก ในช่วงฤดูหนาวฝูงค้างคาวจะบินไปทางทิศตะวันตก
• ถ้ำสาริกา อยู่ในเขตตำบลธรรมเสน จากเขาช่องพรานจะมีทางแยกซ้ายมือไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นภูเขาลูกเล็กๆ อันเป็นที่ตั้งของถ้ำสาริกาซึ่งมีความสวยงาม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานชื่อเมื่อคราวเสด็จประพาส และทรงสลักพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ไว้บริเวณปากถ้ำ

อำเภอจอมบึง ราชบุรี

• ถ้ำฤาษีเขางู ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะพลับพลา ห่างจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 3087 (สายราชบุรี-จอมบึง-สวนผึ้ง) ประมาณ 8 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาไปยังถ้ำ และเป็นสถานที่ซึ่งพบร่องรอยศิลปทวารวดีที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง คือพระพุทธรูปนั่งห้อยพระบาทจำหลักติดผนังถ้ำ ที่รู้จักกันทั่วไปว่า พระพุทธฉายถ้ำฤาษีเขางู ในรูปลักษณ์ศิลปทวารวดีที่ดูแปลกตา มีงานนมัสการเป็นประจำทุกปี ในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11 บริเวณเทือกเขางูนี้ยังมีถ้ำระฆัง และเขาพระบาท ซึ่งมีรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาและเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์เทือกเขางู
• ถ้ำเขาบิน ตั้งอยู่ในเทือกเขาบิน อยู่ห่างจากจังหวัดไปตามทางหลวงหมายเลข 3087 (สายราชบุรี-จอมบึง-สวนผึ้ง) ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายมือเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยวิจิตรตระการตา ที่มาของชื่อถ้ำ เชื่อว่ามาจากหินงอกย้อยเป็นรูปพญาอินทรีย์กางปีกดูสง่างาม จึงได้ชื่อว่าถ้ำเขาบิน และยังมีบ่อน้ำแร่เล็ก ๆ ที่ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในถ้ำมีการจัดระเบียบทางเดินอย่างดีและจัดแสงไฟตามกลุ่มหินย้อยต่าง ๆ เพื่อเสริมจินตนาการให้แก่ผู้มาเที่ยวชม
• สวนพฤกษศาสตร์วรรณคดีภาคกลาง ตั้งอยู่เชิงเขาประทับช้าง ตรงข้ามปากทางเข้าถ้ำเขาบิน เป็นสวนป่าร่มรื่น รวบรวมพรรณไม้ในวรรณคดีหายากหลายชนิด โดยเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนจะเป็นช่วงที่ดอกอรพิมบานสะพรั่งสีขาวบริสุทธิ์ เหมาะเป็นที่พักผ่อนและศึกษาธรรมชาติพันธุ์ไม้
• ถ้ำจอมพล อยู่ห่างจากถ้ำเขาบินไป 11 กิโลเมตร ในบริเวณสวนรุกขชาติ มีฝูงลิงอาศัยอยู่จำนวนมาก เดิมมีชื่อว่า “ถ้ำมุจลินทร์” เมื่อปี พ.ศ.2483 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถได้เสด็จประพาสถ้ำนี้ ทรงพอพระทัยความงามของหินงอกหินย้อย โดยเฉพาะหินย้อยผาวิจิตร ที่เหมือนริ้วไหมอินทรธนูบนบ่าของจอมพล จึงทรงพระราชทานนามถ้ำใหม่ว่า “ ถ้ำจอมพล” นอกจากหินงอกหินย้อยที่สวยงามแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ซึ่งมีงานฉลองเป็นประจำทุกปีในหน้าแล้ง

อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี

• สวนผึ้งเป็นอำเภอบนพื้นที่สูงในโอบล้อมของขุนเขาชิดชายแดนไทย-พม่า จึงมีสภาพอากาศที่เย็น สบายคล้ายกับภาคเหนือ และอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก แค่เพียงระยะเวลาขับรถประมาณ 2 ชั่วโมง
• โป่งยุบ ตั้งอยู่ที่บ้านท่าเคย ก่อนถึงตัวอำเภอสวนผึ้ง 5 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีลักษณะแปลกตา ในเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดินทำให้เกิดลักษณะโตรกผาคล้ายกับแพะเมืองผีจังหวัดแพร่
• พิพิธภัณฑ์ภโวทัย หรือ สวนภูมิปัญญาชาวบ้าน จากหน้าสถานีตำรวจสวนผึ้งแยกซ้ายไปประมาณ 2 กิโลเมตร ผ่านวัดสวนผึ้งแล้วแยกขวาข้ามสะพานไปก็จะถึงพิพิธภัณฑ์ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ ลักษณะเป็นเรือนไทยประยุกต์ รวบรวมวัตถุโบราณในอดีต รถม้า รวมทั้งพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับของไทยชนิดต่าง ๆ เปิดให้เข้าชมทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00 น.- 17.00 น.และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท มีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว ติดต่อสอบถาม โทร. (032) 221189, 01- 486-9804
• บ่อพุน้ำร้อนโป่งกระทิง เดินทางไปตามถนนสายโป่งกระทิง-พุน้ำร้อนประมาณ 1 กิโลเมตรจะเห็นป้ายเลี้ยวเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร เป็นบ่อพุน้ำร้อนขนาดเล็ก กว้างประมาณ 5 เมตร เมื่อยืนล้อมรอบบ่อและช่วยกันปรบมือหรือเคาะทำเสียงดัง น้ำในบ่อจะผุดเป็นฟองขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ใกล้กันมีบ่อน้ำเล็ก ๆ สำหรับอาบน้ำร้อนได้
• ธารน้ำร้อนบ่อคลึง เดินทางจากตัวอำเภอสวนผึ้งไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบแยกเข้าสู่ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตรงไปอีก 10 กิโลเมตร บ่อคลึง เป็นธารน้ำร้อนธรรมชาติที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรี จะมีน้ำไหลอยู่ตลอดปี เป็นน้ำร้อนบริสุทธิ์ อุณหภูมิของน้ำประมาณ 120-136 องศาฟาเรนไฮต์ ในช่วงฤดูหนาวยามเช้าไอน้ำร้อนจะลอยกรุ่นเป็นหมอกสวยงาม มีบ่อน้ำร้อนและสระน้ำสำหรับอาบน้ำร้อนธรรมชาติ วันจันทร์-ศุกร์เปิดเวลา 08.00 – 17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์เปิดเวลา 08.00 – 18.00 น. ค่าผ่านประตู 5 บาท สอบถามรายละเอียดโทร (032)329025
• น้ำตกเก้าโจน หรือ น้ำตกเก้าชั้น ตั้งอยู่ที่บ้านผาปก เลยจากธารน้ำร้อนบ่อคลึงไปประมาณ 1 กิโลเมตร มีความสูง9 ชั้นตกจากหน้าผาสูงกลางหุบเขา ปริมาณน้ำจะมากในชั้นบน ๆ จากบริเวณลานจอดรถเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร จะถึงบริเวณน้ำตกชั้นล่าง ซึ่งสามารถเดินเท้าขึ้นไปถึงชั้นสุดท้ายได้ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
• ไร่กุหลาบอุษาวดี อยู่เลยจากน้ำตกเก้าชั้นไปอีก โดยเดินทางจากตัวอำเภอสวนผึ้งประมาณ 19 กิโลเมตร แล้วแยกไปทางบ้านห้วยน้ำใสอีกประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นไร่เอกชนซึ่งปลูกกุหลาบต่างประเทศพันธุ์ต่าง ๆ และไม้ดอกหลายชนิดกลางหุบเขา เที่ยวชมได้ตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะงดงามเป็นพิเศษ

Source : tourismthailand.org