สถานที่ท่องเที่ยวสระแก้ว
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวสระแก้ว
อำเภอเมือง
สระแก้วสระขวัญ ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 6 และหมู่ 7 ตำบลสระแก้ว อยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมือง หรือก่อนเข้าตัวเมืองเล็กน้อยจะมีทางแยกขวามือตรงหลักกิโลเมตรที่ 246 เชื่อกันว่าน้ำในสระแห่งนี้เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เคยนำไปใช้ในพิธีราชาภิเษก และในสมัยกรุงธนบุรีเมื่อคราสมเด็จพระบรมมหากษัตริย์ศึกเป็นแม่ทัพไปตีเขมร ได้แวะพักที่บริเวณสระน้ำทั้งสองแห่งนี้ และอาศัยน้ำจากสระทั้งสองแห่งสำหรับใช้สอยและใช้ในพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาด้วย ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “จังหวัดสระแก้ว”
อุทยานแห่งชาติปางสีดา ชม น้ำตกปางสีดา, น้ำตกผาตะเคียน, กลุ่มน้ำตกแควมะค่า(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในอุทยานแห่งชาติปางสีดา)
อ่างเก็บน้ำท่ากระบาก ตั้งอยู่เขตติดต่อระหว่าง หมู่ที่ 7 ตำบลท่าแยก อำเภอเมือง กับหมู่ที่ 8 ตำบลหนองตะเคียนบอน อำเภอวัฒนานคร อยู่เลยจากอุทยานแห่งชาติปางสีดาประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นอ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นตามโครงการพระราชดำริที่จะปรับปรุงระบบชลประทานในเขตพื้นที่ราบเชิงเขา บริเวณโดยรอบปลูกต้นไม้พันธุ์ต่างๆ ทั้งไม้ยืนต้นและไม้ประดับ เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่สวยงามแห่งหนึ่ง และใกล้กับอ่างเก็บน้ำด้านซ้ายมือมีน้ำตกท่ากระบาก ตัวน้ำตกมี 3 ชั้น เบื้องล่างมีแอ่งน้ำลงเล่นน้ำได้
อำเภอวัฒนานคร
สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าช่องกล่ำบน ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองหมากฝ้าย อำเภอวัฒนานคร เข้าทางเดียวกับอุทยานแห่งชาติปางสีดา ผ่านอ่างเก็บน้ำท่ากระบากไปประมาณ 500 เมตร แยกซ้ายมือเข้าไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นหน่วยงานของส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2526 ตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงพันธุ์สัตว์ป่าที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ เป็นสถานศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสัตว์ป่าและแหล่งบริการด้านความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์ป่า ตลอดจนใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
ภายในสถานีฯ จัดแบ่งพื้นที่เพาะเลี้ยงเป็นสัดส่วนตามชนิดของสัตว์ต่างๆ เช่น นกเงือก นกขุนทอง
เป็ดก่า นกยูง เก้ง กวาง เนื้อทราย ลิง ชะนี หมี เป็นต้น โดยจัดสร้างกรงเลี้ยงสัตว์ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่อยู่ภายใต้ร่มไม้ที่ร่มรื่นในสภาพใกล้เคียงธรรมชาติ มีทางเดินเท้าสำหรับชมสัตว์ต่างๆ
ปราสาทบ้านน้อย ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลผักขะ อำเภอวัฒนานคร การเดินทางใช้ถนนสายวัฒนานคร-อรัญประเทศถึงบ้านนาน้อยมีทางแยกเป็นถนนดินเข้าไปยังตัวปราสาท ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ปราสาทหลังนี้มีกำแพง 2 ชั้น ชั้นนอกเป็นกำแพงดิน กำแพงชั้นในทำด้วยศิลาแลง ตัวปราสาทหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีทางเข้าทางเดียวคือทางทิศตะวันออก ด้านหน้าปราสาทตรงมุมทางทิศเหนือมีสระน้ำกรุด้วยก้อนศิลาแลง ตรงกลางด้านทิศตะวันตกมีซากโบราณสถานก่อด้วยอิฐไม่สอปูนตั้งอยู่บนฐานศิลาแลง ห่างจากปราสาทไปทางทิศเหนือมีสระน้ำขนาดใหญ่
อำเภออรัญประเทศ
พระสยามเทวาธิราชจำลอง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลอรัญประเทศหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภออรัญประเทศ เป็นรูปจำลองพระสยามเทวาธิราช สร้างโดยพระอุทัยธรรมธารี เมื่อปี พ.ศ. 2518 ต่อมาประชาชนผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันสร้างบุษบกที่ประทับโดยประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2528 เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของอำเภออรัญประเทศ
ประตูชัยอรัญประเทศ ตั้งอยู่พรมแดนไทย-กัมพูชา ที่บ้านคลองลึก ตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศ สร้างในปี พ.ศ. 2482 มีลักษณะเป็นป้อม 2 ป้อม อยู่คนละฟากถนน ตัวป้อมมีลักษณะเป็นรูปหกเหลี่ยมด้านเท่าสูงประมาณ 15 เมตร ฐานป้อมทำเป็นห้องรักษาการณ์ แต่ได้ชำรุดทรุดโทรมจากภัยสงคราม ได้มีการบูรณะซ่อมแซมเมื่อปี พ.ศ. 2502 โดยยังคงรักษารูปลักษณ์เดิมได้เฉพาะป้อมด้านซ้ายเมื่อเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ทหารกล้าที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการสู้รบบริเวณชายแดนด้านนี้ สำหรับด้านขวามือได้ก่อสร้างเป็นเสมาขนาดใหญ่หันออกไปทางประเทศกัมพูชาทำด้วยหินอ่อนสลักรูปครุฑจากรึกคำว่า “ประเทศไทย”
ตลาดชายแดนบ้านคลองลึก ตั้งอยู่ที่บ้านคลองลึก ตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศไปทางทิศตะวันออก 6 กิโลเมตร ติดชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นตลาดทางการค้าที่สำคัญของพรมแดนแถบนี้ มีตลาดชายแดนฝั่งไทย คือ ตลาดโรงเกลือ ร้านค้าในตลาดสร้างเป็นโรงเรือนแบ่งเป็นห้องๆ สินค้าที่วางจำหน่ายเป็นสินค้ามาจากฝั่งเขมร เช่น เครื่องทองเหลือง เครื่องเคลือบ ของโบราณ ของเก่า ถ้วยชาม เสื้อผ้า เครื่องมือเครื่องใช้ไฟฟ้าจากรัสเซีย เครื่องจักสาน ปลาแห้ง เป็นต้น และนักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางเข้าไปจับจ่ายซื้อของได้ที่ตลาดปอยเปตในเขตกัมพูชา โดยต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวทางฝั่งไทยและเสียค่าธรรมเนียมที่ด่านกัมพูชา ที่ตลาดปอยเปตสินค้าที่วางจำหน่ายส่วนใหญ่จะเหมือนกับตลาดโรงเกลือ และจากตลาดโรงเกลือ จะมีรถขนถ่ายสินค้าและผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่ห้ามนำเข้าสินค้าบางประเภทจากกัมพูชา เช่น ตาชั่ง สัตว์ป่า ซาก หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่า หอม กระเทียม เป็นต้น
จากตลาดโรงเกลือประมาณ 500 เมตร จะถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ ซึ่งเป็นด่านสากล ผู้ถือหนังสือเดินทางสามารถเดินทางผ่านเข้าออกและเดินทางต่อไปยังประเทศที่สามได้ ทั้งนี้ต้องได้รับการตรวจลงตราเข้าประเทศจากสถานทูตหรือกลสุลของกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว และจากด่านตรวจคนเข้าเมืองนี้เป็นเส้นทางทางบกที่ใกล้ที่สุดในการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของกัมพูชา เช่น นครวัด นครธม ฯลฯ
วัดอนุบรรพต (เขาน้อย) ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านใหม่หนองไทร แยกจากถนนสุวรรณศรตามถนนธนะวิถีทางไปอำเภอตาพระยา ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร วัดอนุบรรพตนี้สร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2468 ในสมัยรัชกาลที่ 6 ภายในวัดมีอุโบสถที่สวยงาม มีลักษณะแปลกกว่าอุโบสถทั่วไป คือ สร้างเป็นฐานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หลังคาทรงไทย มียอดแหลมสูงประดับตกแต่งแบบศิลปกรรมไทย ภายในอุโบสถประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองเนื้อทองเหลืองเก่าแก่ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวอรัญประเทศ
ปราสาทเขาน้อย ตั้งอยู่ในวัดเขาน้อยสีชมพู ตำบลคลองน้ำใส อำเภออรัญประเทศ ห่างจากตัวอำเภอไปทางทิศใต้ประมาณ 12 กิโลเมตร โบราณสถานตั้งอยู่บนยอดเขาเตี้ยๆ สูงราว 80 เมตร มีบันไดทางขึ้น 254 ขั้น เดินต่อไปตามทางลาดไม่ไกลนักจะถึงบริเวณตัวปราสาท เป็นโบราณสถานก่ออิฐไม่สอปูน ประกอบด้วยปรางค์ทิศเหนือ ปรางค์องค์กลาง และวิหารทิศใต้ จะมีเพียงปรางค์องค์กลางเท่านั้นที่ยังคงสภาพเป็นองค์ปรางค์ ส่วนปรางค์ทิศเหนือและวิหารทิศใต้เหลือเพียงฐานเท่านั้น กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติเมื่อปี พ.ศ. 2478 จากการสำรวจขุดพบทับหลังหินทราย 5 ชิ้น เป็นศิลปะเขมรแบบไพรกแมง 2 ชิ้น แบบสมโบร์กไพรกุก 3ชิ้น ประติมากรรมหินทราย โบราณวัตถุทำจากโลหะเครื่องปั้นดินเผา นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าสร้างเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 12 มีการบูรณปฏิสังขรณ์และคงความสำคัญจนถึงพุทธศตวรรษที่ 16 เชื่อว่า เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู ส่วนโบราณวัตถุที่ได้จากการขุดค้นเก็บรักษาและตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี
อำเภอตาพระยา
ปราสาทสด๊กก๊อกธม ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 บ้านหนองเสม็ด ตำบลโคกสูง อำเภอตาพระยา การเดินทางใช้เส้นทางอรัญประเทศ-ตาพระยา แยกขวามือที่บ้านหนองเม็กเป็นถนนลูกรังจนถึงตัวปราสาท ระยะทางจากอรัญประเทศประมาณ 36 กิโลเมตร โบราณสถานประกอบด้วยองค์ปราสาท 3 หลัง หันหน้าไปทางทิศตะวันออกมีคูน้ำล้อมรอบ มีกำแพง 2 ชั้น ชั้นนอกทำด้วยศิลาแลง ชั้นในทำด้วยหินทราย ตัวปราสาทก่อสร้างด้วยหินทราย มีโคปุระ หรือซุ้มประตูเหลืออยู่เพียงด้านทิศตะวันออกและตะวันตกเท่านั้น ภายในระเบียงคดมีบรรณาลัยก่อด้วยหินทราย 2 หลัง อยู่หน้าปราสาทหลังกลาง ซึ่งเป็นปรางค์ประธาน ปราสาทด้านซ้ายมือและปราสาทองค์ประธานอยู่ในสภาพปรักหักพัง ด้านนอกปราสาททางทิศตะวันออกมีสระน้ำขนาดใหญ่รูปสี่เหลี่ยม มีถนนปูด้วยหินจากตัวปราสาทไปจนถึงสระน้ำตลอดแนว ได้มีการค้นพบศิลาจารึก 2 หลัก จารึกด้วยอักษรขอมโบราณเป็นภาษาเขมร และสันสกฤต ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร จากข้อความในหลักศิลาจารึกและลวดลายประดับที่ตัวปราสาท นักโบราณคดีเชื่อว่าปราสาทนี้สร้างขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อใช้ประดิษฐานรูปเคารพและใช้ประกอบพิธีกรรมตามคติความเชื่อถือในลัทธิศาสนาฮินดู
ปราสาทเขาโล้น ตั้งอยู่ที่บ้านเจริญสุข ตำบลทัพราช อำเภอตาพระยา จากอำเภอตาพระยาไปตามทางหลวงหมายเลข 3068 ตาพระยา-บุรีรัมย์ เลี้ยวซ้ายทางเข้าหมู่บ้านเจริญสุขจนถึงเชิงเขาที่ตั้งปราสาท ระยะทาง จากอำเภอตาพระยาประมาณ 20 กิโลเมตร ปราสาทเขาโล้น ตั้งอยู่บนเขาโดดลูกเตี้ยๆ มีปรางค์ 4 หลัง เหลืออยู่เฉพาะองค์กลาง ปรางค์ด้านหน้า 2 หลัง และด้านหลัง 1 หลัง ได้ปรักหักพังไปแล้ว ลักษณะปราสาทคล้ายกับปราสาทเขาน้อย ก่อด้วยอิฐเผามีหินทรายเป็นพื้นฐาน มีส่วนชำรุดที่ยอดของปราสาท ที่กรอบประตูหินทรายมีจารึกด้วยอักษรโบราณ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวปราสาทมีสระน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง มีแนวถนนโบราณทอดยาวจากตัวปราสาทถึงสระน้ำ รอบภูเขาลูกนี้มีร่องรอยเป็นหมู่บ้านหรือชุมชนโบราณในอดีต
อำเภอเขาฉกรรจ์
เขาฉกรรจ์ อยู่ที่ตำบลเขาฉกรรจ์ จากตัวเมืองสระแก้วไปตามทางหลวงหมายเลข 317 สระแก้ว-จันทบุรี ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร จะถึงเขาฉกรรจ์ ซึ่งอยู่ติดถนนด้านซ้ายมือ ตัวเขาฉกรรจ์เป็นเขาหินปูน สันเขาด้านยาวทำมุม 90 องศา กับทิศเหนือและทิศใต้จุดสูงสุดของยอดเขาสูงประมาณ 240 เมตร มีถ้ำเล็กถ้ำน้อยอยู่ถึง 72 ถ้ำ ที่นิยมเข้าไปชม เช่น ถ้ำมืด ถ้ำอนุมาณ ถ้ำทะลุ ถ้ำมหาหิงส์ ถ้ำน้ำทิพย์ และถ้ำแก้วพลายชุมพล บริเวณเชิงเขาเป็นสวนรุกขชาติใช้เป็นสถานที่ปลูกป่าของกรมป่าไม้ บริเวณร่มรื่นเหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ