สถานที่ท่องเที่ยวชลบุรี

สถานที่ท่องเที่ยวชลบุรี

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวชลบุรี

อำเภอเมือง
• วัดเขาพระพุทธบาทบางทราย ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทด้านซ้ายมือก่อนจะถึงตัวเมืองชลบุรีเล็กน้อย เดิมมีวัดโบราณสมัยอยุธยาอยู่เชิงเขาแต่ผุพังไปหมดแล้ว ต่อมาพระยาพิชิตชลเขตผู้กำกับราชการเมืองชลบุรีได้สร้างวัดพระพุทธบาทบางทรายขึ้นใหม่ ในรัชกาลที่ 5 วัดนี้มีมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทและตึกหลังเล็กภายในมีพระพุทธไสยาสน์ตั้งอยู่บนยอดเขา บริเวณที่ตั้งอยู่บนเชิงเขามีสิ่งก่อสร้างที่เป็นทรงยุโรปสมัยรัชกาลที่ 5 อยู่หลายหลัง ในช่วงวันสิ้นเดือน 4 จนถึงวันขึ้น 2 ค่ำ เดือน 5 มีประเพณีเดินขึ้นไปไหว้พระพุทธบาทบางทราย และยังมีงานประเพณีตักบาตรรเทโวเทศกาลออกพรรษาด้วย
• วัดใหญ่อินทราราม ตั้งอยู่บนถนนเจตน์จำนงค์ในตัวเมืองชลบุรี เป็นวัดสำคัญเก่าแก่คู่เมืองชลบุรี มีสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาตอนปลาย คือ พระอุโบสถฐานโค้งแอ่นท้องสำเภา ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามมาก เหนือขอบหน้าต่างเป็นภาพเทพชุมนุม ที่ผนังทั้งสองด้านเขียนเรื่องทศชาติชาดก พระเวสสันดรชาดก และยังมี พลับพลาตรีมุข สร้างด้วยไม้ประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อสำริดทรงเครื่องกษัตริย์ เรียกกันว่า หลวงพ่อเฉย
• หอพระพุทธสิหิงค์ ตั้งอยู่บนถนนวชิรปราการ ในตัวเมือง ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์จำลอง (องค์จริงประดิษฐานอยู่ที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ) ทำด้วยเงินบริสุทธิ์ มีพุทธลักษณะงดงาม และมีขนาดเท่าองค์จริงทุกประการ หล่อขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2503 เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้สักการะทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00-16.00 น. ในวันสงกรานต์จะอัญเชิญองค์พระแห่รอบเมืองให้ประชาชนได้สรงน้ำเพื่อเป็นสิริมงคล
• วัดธรรมนิมิตต์ ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านสวน บนถนนสายชลบุรี-พนัสนิคม ห่างจากตัวเมืองประมาณ 1 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2484 เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมงคลนิมิตต์ พระพุทธรูปคอนกรีตประดับด้วยกระเบื้องโมเสก ปางประทับเรือ (ประทับนั่งบนบัลลังก์ ห้อยพระบาท พระหัตถ์ซ้ายวางคว่ำบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาห้องอยู่ข้างพระองค์) ขนาดความสูง 34 เมตรอยู่เชิงเขา หากเดินขึ้นไปยังยอดเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองชลบุรีได้
• อ่างศิลา เป็นหมู่บ้านประมงริมทะเล อยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรีประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงหอยนางรมและหอยแมลงภู่ มีร้านอาหารทะเล และร้านขายสินค้าพื้นเมือง ที่ขึ้นชื่อได้แก่ ครกหิน ซึ่งชาวจีนแต้จิ๋วซึ่งอพยพเข้ามาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นผู้ริเริ่มนำหินเนื้อละเอียดที่มีอยู่มากมายแถบอ่างศิลามาแกะสลัก ปัจจุบันมีการแกะสลักเป็นลูกนิมิต ช้าง ม้า สิงห์ และตุ๊กตาตกแต่งสวน นอกจากนี้อ่างศิลายังเคยเป็นสถานตากอากาศชายทะเลเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง มีตำหนักที่ประทับริมทะเลสมัยรัชกาลที่ 5 สถาปัตยกรรมแบบยุโรป ให้เห็นอยู่
• วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม เป็นศาลเจ้าจีนที่ก่อสร้างอย่างสวยงามใหญ่โต ตั้งอยู่ริมเส้นทางเลียบชายทะเลจากอ่างศิลาไปเขาสามมุข มีตึก 4 ชั้น ภายในโอ่โถงตระการตาด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีน ประดิษฐานรูปเคารพของเทพเจ้าจีนมากมายหลายองค์ เช่น เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ เจ้าแม่กวนอิมพันมือ เป็นต้น เมื่อเดินขึ้นไปชั้นบนสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ชายทะเลได้สวยงาม สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. 0 3839 8381-4, 0 3839 8399
• เขาสามมุข สัญลักษณ์ในดวงตราประจำจังหวัดชลบุรี เป็นเนินเขาเตี้ย ๆ อยู่กึ่งกลางระหว่างบ้านอ่างศิลา และหาดบางแสน เชิงเขาเป็นที่ตั้งศาลเจ้าแม่เขาสามมุข ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไป บริเวณเขาสามมุขมีลิงป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก หากขับรถไปขึ้นไปบนเขาจะมองเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลบางแสนได้สวยงาม
• สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล อยู่ติดกับมหาวิทยาลัยบูรพา ก่อนถึงชายหาดบางแสน มีเนื้อที่ 30 ไร่ ภายในแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล สถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม ซึ่งมีสัตว์ทะเลนานาชนิดจัดแสดงไว้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจและห้องปฏิบัติการวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล เปิดให้เข้าชมทุกวันเว้นวันจันทร์ เวลา 08.30-16.00 น. วันหยุดราชการเปิดถึง 17.00 น. สาธิตดำน้ำให้อาหารปลาเวลา 14.30 น. วันหยุดเพิ่มรอบ 10.30 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 15 บาท ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. 0 3839 1671-3
• หาดบางแสน อยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรี 14 กิโลเมตร แยกขวาจากถนนสุขุมวิท ตรงหลัก กม. 104 เข้าไป 3 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยที่มีชื่อเสียงมาช้านาน มีถนนตัดเลียบชายหาด ซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านอาหารและที่พัก มีเก้าอี้ผ้าใบสำหรับพักผ่อนรับประทานอาหารใต้ร่มเงาทิวมะพร้าว มีห่วงยางว่ายน้ำ บาบาน่าโบ๊ต จักรยานให้เช่า และห้องอาบน้ำจืด ทุกวันหยุดจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทย เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯจึงสามารถมาเที่ยวแบบเช้าไป-เย็นกลับได้
• การเดินทางจากกรุงเทพฯ มีรถโดยสารสายกรุงเทพฯ-บางแสน ออกจากสถานีขนส่งเอกมัยทุกวัน หรือ ขึ้นรถสายกรุงเทพฯ-ชลบุรี ลงที่สี่แยกเฉลิมไทยในตัวเมืองชลบุรีแล้วต่อรถสองแถวไปยังหาดบางแสน
• แหลมแท่น อยู่บริเวณหาดบางแสนเลยมาทางเขาสามมุข มีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปไม่มากนัก มีศาลาพักผ่อนและร้านอาหาร ที่บริเวณนี้จะมีผู้คนมาตกปลากันมากและมีประติมากรรมรูปปลาโลมาที่สวยงาม
• ตลาดหนองมน อยู่ริมถนนสุขุมวิท ห่างจากทางแยกเข้าหาดบางแสนประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นแหล่งรวมของกินของฝากจากเมืองชล ทั้งผลิตภัณฑ์อาหารทะเลสดและแปรรูป เช่น ปลาเค็ม ปลาแห้ง กุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้ง กะปิ น้ำปลา อาหารพื้นถิ่น เช่น ห่อหมก ทอดมัน แจงลอน และขนมหวานนานาชนิด เช่น ข้าวหลาม ขนมจาก ขนมไทยต่าง ๆ
• ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลนเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 3 ตำบลเสม็ด มีเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่น่าสนใจ โดยทางศูนย์ฯ ได้จัดทำสะพานไม้ยาวประมาณ 2,300 เมตร เพื่อให้เดินชมธรรมชาติในป่าชายเลนที่ยังคงความสมบูรณ์ที่สุดของระบบนิเวศน์ป่าชายเลน มีหอดูนก มีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ อาทิ ต้นโกงกาง เสม็ด แสม ลำพู เป็นต้น ตลอดจนสัตว์น้ำ อาทิ ปูก้ามดาบ ปูพันธุ์ใหม่ “หยกฟ้า” และนกกินปลานานาชนิดจำนวนมาก และบริเวณด้านหน้าของศูนย์ฯ ได้ทำเป็นสวนสุขภาพไว้ด้วย อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท เปิดบริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 08.30-18.30 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. 0 3839 8268-9, 0 17139683
• การเดินทาง ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท จากตัวเมืองชลบุรีใช้เส้นทางเดียวกับไปองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ตรงไปจนสุดทาง ประมาณ 4 กิโลเมตร

อำเภอศรีราชา
• เกาะลอยศรีราชา ตั้งอยู่ที่ถนนเทศบาล ทางทิศเหนือของตลาดศรีราชา เป็นเกาะเล็ก ๆ ใกล้ชายฝั่ง ซึ่งมีสะพานคอนกรีตเชื่อมระหว่างชายฝั่งกับเกาะลอย รถเข้าถึงเกาะได้โดยสะดวก มีเนื้อที่ราว 3 ไร่เศษ บนเกาะมีสวนสาธารณะและสวนเต่าทะเล มีบันไดทางเดินขึ้นไปยังวัดที่อยู่บนยอดเขา
• สวนเสือศรีราชา อยู่ห่างจากตลาดศรีราชา (ทางไปโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา) ไปตามทางหลวงหมายเลข 3241 ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวประเภทสวนสัตว์ มีฟาร์มเพาะเลี้ยงเสือโคร่งพันธุ์เบงกอลกว่า 200 ตัว รวมทั้งฟาร์มจระเข้ และสัตว์อื่น ๆ อีกนานาชนิด นักท่องเที่ยวจะได้ชมการอยู่ร่วมกันของเสือกับหมูและสุนัข มีการแสดงการจับจระเข้ ละครสัตว์ การแข่งขันหมูวิ่ง ราชินีแมงป่อง สวนเสือศรีราชาเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. 0 3829 6556-8 กรุงเทพฯ โทร. 0 2934 7841, 0 2934 6676 www.tigerzoo.com
• สวนผีเสื้อสายทิพย์ ตั้งอยู่บริเวณ กม. 10 ทางหลวงหมายเลข 36 หากมาจากถนนสุขุมวิทแยกซ้ายบริเวณตลาดบางพระตามทางที่จะไปสวนสัตว์เขาเขียว เป็นสวนผีเสื้อที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย ภายในมีส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงให้ความรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิตผีเสื้อ ชนิดของผีเสื้อ มีฟาร์มผีเสื้อท่ามกลางสวนไม้ดอกไม้ประดับที่ปลูกไว้สวยงาม มีผีเสื้อหลากหลายพันธุ์ที่เพาะเลี้ยงไว้นับพันตัว ที่โดดเด่นคือ ผีเสื้อเอ็ดเวิร์ด ซึ่งเป็นผีเสื้อท้องถิ่นขนาดใหญ่และลวดลายสวยงาม นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ผึ้ง สวนกล้วยไม้ ร้านขายของที่ระลึก เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น. ค่าเข้าชมคนไทย 50 บาท เด็ก 30 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท เด็ก 60 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. 0 3829 8329-30
• สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ตั้งอยู่ที่ตำบลบางพระ ในเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ สามารถเดินทางเข้าถึงได้ 2 เส้นทาง คือ จากถนนสุขุมวิทไปประมาณ 19 กิโลเมตร ผ่านอ่างเก็บน้ำและสนามกอล์ฟบางพระ หรือจากทางหลวงหมายเลข 36 จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ สวนสัตว์แห่งนี้ดำเนินการโดยองค์การสวนสัตว์ มีสัตว์ป่าต่าง ๆ จากแถบเอเชียและแอฟริกา ให้ชมมากกว่า 200 ชนิด นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นหรือนั่งรถชมสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00-18.00 น. อัตราค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 15 บาท และมีการแสดงความสามารถของสัตว์ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-16.00 น. เช่น เหยี่ยวโฉบเหยื่อ นกมาคอว์ปั่นจักรยาน เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมชมสัตว์ตอนกลางคืน หรือ ไนท์ซาฟารี ทุกวัน ระหว่างเวลา 18.00-21.00 น. ซึ่งจะพบเห็นพฤติกรรมของสัตว์ที่หากินยามกลางคืน เช่น ละอง ละมั่งฝูงใหญ่ วัวแดง กระทิง หมีขอ นกแสก สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. 0 3829 8195, 0 3829 8270
• น้ำตกชันตาเถร เป็นน้ำตกในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว-เขาชมภู่ อยู่ห่างจากถนนสุขุมวิท ไปประมาณ 15 กิโลเมตร ตามทางหมายเลข 3144 ทางไปวัดเขาไม้แดง มีป้ายบอกทางเป็นระยะ เมื่อถึงลานจอดรถต้องเดินเท้าอีก 700 เมตร สามารถเช่ารถสองแถวจากตลาดบางพระได้ น้ำตกแห่งนี้มีความสูงถึง 5 ชั้น ชั้นที่ 4 มีความสวยงามที่สุด ซึ่งต้องเดินเท้าประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนชั้นที่ 5 ต้องปีนป่ายขึ้นไป มีน้ำเฉพาะช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน เปิดให้เข้าเที่ยวชมระหว่างเวลา 06.00-16.00 น. ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมเหมาะที่จะมาดูนก โดยเฉพาะนกเงือก ผู้สนใจจัดกิจกรรมค่ายเยาวชนเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติส่งจดหมายถึงหัวหน้าสถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาเขียว ตู้ ป.ณ. 10 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 20210

อำเภอเกาะสีชัง
• เกาะสีชัง เป็นเกาะใหญ่ที่มีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของชลบุรี อยู่ห่างจากฝั่งศรีราชาประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นที่จอดพักเรือสินค้านานาชาติ และเป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบท้องถิ่น ซึ่งสามารถแวะท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้ ชุมชนเกาะสีชังอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ เป็นที่ตั้งของท่าเรือเทววงศ์ (ท่าล่าง) และเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยรถสามล้อเครื่องหรือสกายแล็ปไปยังจุดอื่น ๆ บนเกาะสีชัง
จุดท่องเที่ยวบนเกาะสีชัง ได้แก่
• ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ตั้งอยู่บนเขาห่างจากท่าเรือเทววงศ์ไปทางด้านเหนือของเกาะ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือ ลักษณะเป็นถ้ำซึ่งดัดแปลงเป็นศาสนสถาน ที่ผสมผสานด้วยสถาปัตยกรรมจีนและไทย จากบริเวณศาลมองเห็นทิวทัศน์บ้านเรือนด้านหน้าเกาะได้ชัดเจน
• มณฑปรอยพระพุทธบาท อยู่สูงขึ้นไปบนยอดเขาเดียวกับศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ รัชกาลที่ 5 ทรงอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ บนยอดเขาเป็นจุดชมทิวทัศน์ทะเลได้โดยรอบ
• ช่องเขาขาด ตั้งอยู่ด้านหลังของเกาะ หากนั่งเรือผ่านจะเห็นเป็นช่องเขา ในบริเวณมีสะพานสำหรับเดินชมทิวทัศน์ สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงาม มีหาดหินกลม ซึ่งเต็มไปด้วยหินกลม ๆ ขนาดต่าง ๆ มากมาย ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5
• พระจุฑาธุชราชฐาน ห่างจากท่าเทววงศ์ลงมาทางใต้ของเกาะ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับในฤดูร้อน ภายในบริเวณมีสภาพภูมิทัศน์ที่งดงาม ด้านหน้าเป็นชายหาดท่าวัง ถัดขึ้นไปเป็นตึกวัฒนา พระตำหนักทรงปั้นหยา เรือนไม้ลวดลายขนมปังขิง ตึกผ่องศรีหรือศาลาแปดเหลี่ยม ตึกอภิรมย์ และวัดวัดอัษฎางค์นิมิตรบนยอดเขาซึ่งก่อสร้างแบบสถาปัตยกรรมไทยผสมตะวันตก ส่วนพระราชวังซึ่งทำด้วยไม้สักได้รื้อไปก่อสร้างเป็นพระที่นั่งวิมานเมฆ ที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ได้แก่ สระน้ำ บ่อน้ำ สะพานท่าเทียบเรือ และประภาคาร
• หาดถ้ำเขาพัง ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเกาะ เป็นชายหาดกว้าง สะอาดและสวยงาม มีทรายละเอียด น้ำใสสะอาดเหมาะแก่การเล่นน้ำ
การเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะ เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสีชังอยู่ห่างกันพอสมควร จะสะดวกมากหากจะเช่ารถสามล้อเครื่องจากท่าเทียบเรือไปชมสถานที่ต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษก็เที่ยวได้ทั่วเกาะ ค่าเช่ารถสามล้อเครื่อง คิดเป็นรอบ ๆ ละประมาณ 150-250 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและระยะทาง
• การเดินทาง จากกรุงเทพฯไปเกาะสีชัง ขึ้นรถจากสถานีขนส่งเอกมัยไปศรีราชา โดยลงรถที่หน้าห้างโรบินสัน ศรีราชา แล้วต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือสามล้อเครื่องมายังท่าเรือจรินทร์
บริเวณท่าเรือเกาะลอยศรีราชา ถนนเจิมจอมพลในอำเภอศรีราชา มีเรือโดยสารไปเกาะสีชังทุกวัน ระหว่างเวลา 07.00-20.00 น. ออกทุก ๆ ชั่วโมง ใช้ระยะเวลาประมาณ 45 นาที อัตราค่าโดยสาร คนละ 40 บาท และจากเกาะสีชังมีเรือบริการข้ามมายังฝั่งศรีราชา ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00-18.00 น. มีเรือออกทุก ๆ ชั่วโมง รายละเอียดสอบถาม เรือสีชังพาเลซ โทร. 0 3821 6276-82 หรือ เรือแสงประทีปบริการ โทร. 0 3831 3687
• เกาะขามใหญ่ อยู่ด้านหน้าเกาะสีชัง ห่างจากเกาะสีชังไปประมาณ 5 นาที เรือโดยสารที่ไปเกาะสีชังจะแวะจอดที่เกาะขามใหญ่ บนเกาะเป็นหมู่บ้านชาวประมง มีบริการที่พักรับรองนักท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ (Homestay) ซึ่งมีกิจกรรมตกปลา หาหอยนางรมและตกปลาหมึก
• เกาะท้ายค้างคาว เป็นเกาะเล็ก ๆ ด้านทิศใต้ของเกาะสีชัง มีหาดทรายและปะการัง นั่งเรือท่าเทววงศ์ไปประมาณครึ่งชั่วโมง ค่าเช่าเรือประมาณ 800 บาท บนเกาะมีที่พักบริการ

อำเภอบางละมุง
• อันเดอร์วอเตอร์ เวิล์ด ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท-หนองปรือ เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ปลาทะเลในด้านอ่าวไทย นักท่องเที่ยวสามารถเดินลอดผ่านอุโมงค์แก้วใส เห็นปลาประเภทต่าง ๆ ที่ว่ายอยู่รอบ ๆ ได้ถึง 180 องศา ตัวอุโมงค์มีความยาว 105 เมตร โดยแบ่งออกเป็น 3 โซน โซนแรก ได้แก่ โซนปะการัง มีปลาสวยงามที่หาดูได้ยาก เช่น ปลาสินสมุทร ปลาพยาบาล ปลาผีเสื้อ โซนที่สอง ได้แก่ โซนปลากระดูกอ่อน เช่น ปลาฉลาม ปลากระเบน และ โซนที่สาม ได้แก่ โซนเรืออับปาง มีปลาประมงประเภทต่าง ๆ เช่น ปลาเก๋า ปลาจะระเม็ด นอกจากนี้ยังมีการแสดงให้อาหารสัตว์ทะเลทั้งบนผิวน้ำ และดำลงไปให้อาหารใต้น้ำเป็นรอบ ๆ ในแต่ละโซน สถานที่แห่งนี้เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. (ปิดจำหน่ายตั๋ว 17.30 น.) อัตราค่าเข้าชม นักท่องเที่ยว ชาวไทย ผู้ใหญ่ 180 บาท เด็ก 120 บาท (เด็กต่ำกว่า90 ซม. ฟรี) ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 360 บาท เด็ก 180 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3875 6879 โทรสาร 0 3875 6879
• บ้านสุขาวดี ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 219 หมู่ 2 ถนนสุขุมวิท เป็นบ้านของ ดร. ปัญญา โชติเทวัญ ในวันจันทร์-ศุกร์ จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะบริเวณด้านนอกของบ้าน แต่ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะเปิดให้เข้าไปชมภายในตัวบ้านชั้นที่ 1 และชั้นดาดฟ้า ให้เข้าไปสักการะเจ้าแม่กวนอิม และหากท่าน ดร. ปัญญาไม่ติดภาระกิจใด ๆ ในช่วงวันหยุดท่านก็จะบรรยายให้ฟังอีกด้วย การเดินทาง บ้านสุขาวดีอยู่อำเภอบางละมุงทางด้านชายฝั่งทะเล ใกล้กับโรงแรมชลจันทร์ และอยู่ไม่ไกลจากที่ว่าการอำเภอบางละมุง โทร. 0 3822 3536-9

อำเภอสัตหีบ
• โรงละครอลังการ ตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 155 เป็นสถานที่ที่รวบรวมศิลปะ การแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ ของประเทศไทย แบ่งออกเป็น3 ส่วน ได้แก่ โรงละคร ประกอบด้วย กำแพงแก้ว หอระฆังมงคล ภัตตาคาร “อลังการ” ภายในตกแต่งด้วยศิลปะสมัยใหม่ที่เชื้อเชิญให้ผู้มาเยือนได้เอมอิ่มกับอาหารไทยและนานาชาติ และลานวัฒนธรรมและร้านขายของที่ระลึก เป็นพื้นที่แสดงการละเล่นแบบไทย ๆ รวมถึงการสาธิตผลิตภัณฑ์ฝีมือภูมิปัญญาชาวบ้าน นอกจากนั้นยังมี ทะเลสาบ “อลังการ” ที่ประกอบด้วยวิถีชีวิตแบบไทย ๆ มีตลาดน้ำให้นักท่องเที่ยวได้จับจ่ายซื้อหาผลไม้และขนมไทยได้ โรงละคร “อลังการ” เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 17.30-23.00 น. การแสดงเริ่มเวลา 20.00-21.00 น. อัตราค่าเข้าชม นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ราคา 1,000-1,400 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 3825 6000 กรุงเทพฯ โทร. 0 2216 1869-71, 0 2216 1949
• พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ตั้งอยู่เส้นทางเดียวกับทางไปวัดญานสังวราราม โดยแยกจากถนนสุขุมวิท บริเวณ กม. 160 ไปอีก 6 กิโลเมตร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักด้วยแสงเลเซอร์บนหน้าผาของเขาชีจรรย์ ศิลปสุโขทัยผสมล้านนา ขนาดความสูง 130 เมตร หน้าตักกว้าง 70 เมตร มีชื่อว่า “พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา” สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2539 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายในพระอุระบรรจุพระรัตนะบรมสารีริกธาตุ บริเวณโดยรอบตกแต่งเป็นสวนพักผ่อนหย่อนใจสวยงาม อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
• สวนนงนุช อยู่ห่างจากปากทางเข้าพัทยาใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร โดยแยกซ้ายจากถนนสุขุมวิท บริเวณ กม. 163 เข้าไปประมาณ 3.5 กิโลเมตร เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในเนื้อที่ 1,500 ไร่ ภายในมีสวนไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด เช่น กล้วยไม้ เฟิร์น สับปะรดสี สวนไม้พุ่มไม้ดัด สวนหิน ตะบองเพชร และปาล์มจากทั่วทุกมุมโลก ที่พักเป็นเรือนไม้สักทรงไทย มีห้องประชุมสัมมนา สวนสัตว์ และศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ประกอบด้วยการฟ้อนรำพื้นเมือง ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว กีฬาพื้นบ้าน และการแสดงของช้าง เปิดแสดงทุกวัน วันละ 4 รอบ คือ เวลา 09.45 น. 10.30 น. 15.00 น. และ 15.45 น. วันหยุดเพิ่มรอบ 12.15 น. อัตราค่าผ่านประตู คนละ 100 บาท ค่าผ่านประตูและรวมดูการแสดง คนไทย 199 บาท ชาวต่างชาติ 400 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. 0 38429321, 0 3842 2958 กรุงเทพฯ โทร. 0 2251 2161, 0 2252 1786
• บางเสร่ เป็นชุมชนหมู่บ้านประมง อยู่ห่างจากพัทยาประมาณ 16 กิโลเมตร แยกขวาจากถนนสุขุมวิทบริเวณ กม. 164 เข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร ทางด้านใต้ของบางเสร่จะเป็นอ่าวน้ำลึกซึ่งเหมาะแก่การตกปลา ปลาที่ชุกชุมมาก คือ ปลาปะการัง หรือ ปลาเก๋า ส่วนทางเหนือมีหาดทรายสวยงามพอสมควร เล่นน้ำได้ มีเรือให้เช่าไปตกปลา ที่บางเสร่มีร้านอาหารทะเลอร่อยอยู่หลายร้าน
• วัดสัตหีบ หรือ วัดหลวงพ่ออี๋ ตั้งอยู่ในตัวอำเภอสัตหีบ ด้านหลังวัดติดทะเล สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยหลวงพ่ออี๋หรือพระครูวรเวทมุนี ซึ่งมีความรู้ทางด้านวิปัสสนา เป็นที่พึ่งพิงของชาวบ้านในยามยาก ชาวบ้านจึงเคารพศรัทธามากและพร้อมใจกันสร้างรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ
• หาดเตยงาม เดิมชื่อ อ่าวตากัน ตามประวัติการตั้งฐานทัพเรือสัตหีบ ทางเข้าอยู่ด้านหน้าฐานทัพเรือและหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นหาดทรายขาวสวยงามและสะอาด เพราะได้รับการดูแลอย่างดีจากทหารเรือ เปิดให้ประชาชนเข้าไปพักผ่อนในช่วงวันหยุด
• หาดดงตาล เป็นหาดที่สวยงาม โค้งมนไปตามขอบอ่าวสัตหีบตั้งแต่ที่ว่าการอำเภอสัตหีบเข้าไปในกองเรือยุทธการ เรียงรายไปด้วยต้นตาลซึ่งขึ้นอยู่ ณ ที่นี้มาช้านาน อันเป็นที่มาของชื่อชายหาดแห่งนี้
• หาดทรายแก้ว เป็นหาดที่สวยงามอยู่ในความดูแลของหหารเรืออยู่ใกล้โรงเรียนชุมพลทหารเรือ มีบริการที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3843 6187 ต่อ 2201-2
• หาดนางรำ อยู่ใกล้กับท่าเรือจุกเสม็ดหรือท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ เป็นหาดยาวประมาณ 200 เมตร เหมาะสำหรับเล่นน้ำและพักผ่อนหย่อนใจ บริเวณมีร้านอาหารและที่พักของสโมรสรทหารเรือ สุดปลายหาดคือแหลมปู่เจ้าประดิษฐานศาลเจ้าพ่อกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
• หาดเทียนทะเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่อยู่ในความดูแลของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งของกองทัพเรือ เป็นหาดทรายสลับกับโขดหิน มีพื้นที่ยาวประมาณ900 เมตร เป็นหาดทรายที่เป็นจุดชมวิวในมุมกว้าง มีหน้าผารูปทรงแปลกตาและเห็นพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าได้ นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ไม้ทะเลหลายชนิดให้ศึกษา มีบริการเรือคายัคให้เช่า และมีร้านอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ต่อ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งของกองทัพเรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร.0 3824 5760
• เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร ตั้งอยู่ที่ท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด ได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า “จักรีนฤเบศร” หมายถึง ผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์จักรี เป็นเรือที่ต่อในประเทศสเปน เมื่อปี 2537 เรือลำนี้มีทั้งหมด 11 ชั้น มีความยาว 182 เมตร กว้าง 30.5 เมตร เป็นเรือที่มียุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย มีระบบเรด้าห์ตรวจการณ์ระยะไกล ภารกิจที่สำคัญในยามสงคราม ทำหน้าที่เป็นเรือธง ควบคุมและบังคับบัญชากองเรือในทะเลทั้งหมด และยังเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน ควบคุมการปฏิบัติการป้องกันภัยทางอากาศอีกด้วย เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 09.00-16.00 น. โดยไม่เสียค่าเข้าชม นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศต้องทำหนังสือถึง ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ สัตหีบ ชลบุรี 20180 สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. 0 2466 1180 ต่อเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร
• ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ เป็นแหล่งให้ความรู้ทางด้านชีววิทยาเกี่ยวกับวงจรชีวิตของเต่าทะเล สำหรับหน่วยงานราชการ และคณะต่าง ๆ ที่เข้าชมทางศูนย์ได้จัดวิทยากรบรรยายเพื่อให้ประชาชนและเยาวชนได้ชมวีดีทัศน์ นิทรรศการ และชมความน่ารักของเต่าทะเลที่บ่ออนุบาล เพื่อได้เกิดความรักและหวงแหนทรัพยากรเต่าทะเลของไทย ศูนย์ฯ เปิดให้เข้าชมทุกวันไม่เว้นวันหยุด ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. การเข้าชมกรุณาติดต่อก่อนล่วงหน้า ได้ที่ หน่วยบัญชาการต่อสุ้อากาศยานและรักษาฝั่ง โทร. 0 3824 5666 ต่อ 066-6178 E-mail: seaturtle@navy.mi.th,0 3824 5760, 0 3843 8457
• หมู่บ้านช่องแสมสาร เป็นหมู่บ้านชาวประมงปลายแหลมสัตหีบ บริเวณหมู่บ้านมีที่พักหลายแห่ง นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนตกปลากันมาก มีบริการเรือและอุปกรณ์ตกปลาให้เช่า โดยเฉพาะช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม เป็นช่วงที่ลมสงบ เหมาะแก่การตกปลา เช่น ปลาแดง ปลาเก๋า ปลาโฉมงาม ปลาฉลามโรนัน ปลาเกมส์ ปลาแชร์กั้ม
• การเดินทางโดยรถโดยสารจากกรุงเทพฯ สามารถขึ้นรถจากสถานีขนส่งเอกมัยมาลงที่อำเภอสัตหีบ แล้วต่อรถสองแถวสายสัตหีบ-แสมสาร ซึ่งมีให้บริการระหว่างเวลา 05.30-18.30 น.
• สวนจุลกาลสถิตสถานบรรพชนสยาม เป็นสวนที่สร้างถวายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตร อุดมศักดิ์ เมื่อปี พ.ศ. 2538 ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 1 ตำบลพลูตาหลวง ภายในสวนประดิษฐานศษลและรูปปั้นของกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ บุคคลในประวัติศาสตร์ของชาติไทย รูปปั้นพระเกจิอาจารย์ในอดีต สวนเปิดให้เข้าทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.

อำเภอพนัสนิคม
• พระพุทธมิ่งเมือง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักด้วยไม้ประดู่ เป็นศิลปะของชาวลาว สร้างในราวปี พ.ศ. 2371 เป็นการสร้างขึ้นของชาวลาวที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในละแวกนี้ เดิมประดิษฐานอยู่ในวัดร้าง ชื่อว่า “วัดผ่าเขาใหญ่” สันนิษฐานว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเป็นวัดแรกในเขตพนัสนิคม ต่อมาเทศบาลเมืองพนัสนิคมได้มาปรับปรุงสถานที่และบริเวณวัดร้างพร้อมดำเนินการก่อสร้างวิหารเป็นที่ประดิษฐานองค์พระประธาน ณ ที่ตั้งอุโบสถเดิม ปัจจุบันอยู่ใกล้กับศาลาประชาคมเทศบาลเมืองพนัสนิคม
• หอพระพนัสบดี ตั้งอยู่กลางสระน้ำ ตรงข้ามศาลาเทศบาลเมืองพนัสนิคม ถนนเมืองเก่า ซอย 1 เป็นที่ประดิษฐานพระพนัสบดีซึ่งจำลองจากองค์จริง เป็นพระพุทธรูปยืนปางประทานพร สมัยทวารวดีที่สง่างามมาก อายุประมาณ 1,200- 1,300 ปี แกะสลักอย่างประณีตจากหินดำเนื้อละเอียด ประทับยืนบนหลังสัตว์ที่มีลักษณะผสมกันระหว่างครุฑ โค และหงส์
• วัดชุมแสงศรีวนาราม ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลหนองนาง อยู่ห่างจากตลาดพนัสนิคมผ่านตลาดทุ่งเหียงไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3284 ประมาณ 13 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายไปอีก 2 กิโลเมตร วัดนี้เดิมชื่อว่า “วัดใหม่ยางงาม” จุดเด่นของวัดนี้คือ ศาลาการเปรียญ ที่ใช้เป็นที่ประชมสงฆ์และพิธีทางศาสนา ที่ก่อสร้างโดยใช้ดินเผามาประยุกต์เป็นรูปทรงทันสมัย ชื่อ อาคารมาบุญครอง และโบสถ์ที่มีภาพเขียนปริศนาธรรมที่น่าสนใจมาก
• วัดหลวงพรหมวาส ตั้งอยู่ที่บ้านคลองหลวง ตำบลวัดหลวง ริมถนนสายพนัสนิคม-ฉะเชิงเทรา ตามเส้นทางหมายเลข 315 อยู่ด้านขวา จากปากทางเข้าไปประมาณ 700 เมตร ในอดีตวัดนี้เคยเป็นสถานที่ทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา เป็นแหล่งอาศัยของค้างคาวแม่ไก่จำนวนมากซึ่งมาอาศัยตามต้นไม้ในวัดเป็นเวลานับร้อยปีแล้ว
• หลวงพ่อติ้ว วัดหัวถนน ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 10 กิโลเมตร ตามเส้นทางพนัสนิคม-สระสี่เหลี่ยม สู่ตำบลหัวถนน เป็นที่ตั้งของวัดหัวถนน พระพุทธรูปลักษณะปางมารวิชัย แกะจากไม้แต้ว (ชาวลาวเรียกว่า ไม้ติ้ว) พอถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในวันที่ 19 เมษายนของทุกปี จะมีการแห่องค์หลวงพ่อติ้วไปรอบหมู่บ้าน โดยเชื่อกันว่าจะช่วยดลบันดาลให้ประสบกับสิ่งที่หวังไว้ทุกประการ
• สระสี่เหลี่ยม ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลสระสี่เหลี่ยม การเดินทางจากพนัสนิคมใช้เส้นทางสายพนัสนิคม-สระสี่เหลี่ยม ผ่านวัดหัวถนนไปสู่บริเวณสระน้ำโบราณสระสี่เหลี่ยมซึ่งขุดลงไปในศิลาแลง ตามตำนานกล่าวว่าเป็นสระที่พระรถในเรื่องพระรถเมรีใช้เป็นที่ให้น้ำไก่ เมื่อคราวที่นำไก่ออกตีเพื่อเลี้ยงนางสิบสองและได้เดินทางมาตีไก่ถึงบริเวณนี้
• วัดโบสถ์ ตั้งอยู่ริมถนนสายพนัสนิคม-ฉะเชิงเทรา ตำบลวัดโบสถ์ โดยเดินทางจากสี่แยกพนัสนิคมไปตามถนนสุขประยูร ประมาณ 6 กิโลเมตร จะเห็นทางเข้าวัดอยู่ทางซ้ายมือ วัดโบสถ์เป็นวัดเก่าแก่ภายในมีสระน้ำโบราณ ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว
• วัดหลวงพรหมวาส ตั้งอยู่ที่ตำบลวัดหลวง ริมถนนสายพนัสนิคม-ฉะเชิงเทรา ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปวัดโบสถ์ วัดนี้เคยเป็นสถานที่ทำพิธีถือน้ำพิพัฒสัตยา ภายวัดมีบริเวณกว้างขวางและร่มรื่น นอกจากนี้ยังมีค้างคาวแม่ไก่จำนวนมากเกาะอยู่ตามต้นไม้ เต็มไปหมด
• วัดใต้ต้นลาน อยู่ที่ตำบลไร่หลักทอง เส้นทางสายพนัสนิคม-ฉะเชิงเทรา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2448 มีสถาปัตยกรรมฝีมือช่างท้องถิ่นที่น่าสนใจ ทั้งศาลาการเปรียญไม้เก่าแก่ เสาหงส์คู่ และปูนปั้นรูปยักษ์หน้าอุโบสถ พื้นอุโบสถปูด้วยกระเบื้องกังไสเก่าแก่ของจีน และมีหอไตรกลางน้ำสร้างด้วยไม้สัก
• ตลาดเครื่องจักสาน ตั้งอยู่บริเวณถนนเกาะแก้ว ซึ่งเป็นย่านตลาดเก่าของพนัสนิคม มีร้านค้าบ้านเรือนไม้แบบเก่าหลายหลัง จำหน่ายข้าวของเครื่องใช้ที่จักสานด้วยไม้ไผ่ ซึ่งเป็นหัตถกรรมขึ้นชื่อของพนัสนิคม เช่น ฝาชี กระจาด หมวก กระบุง ตะกร้า เป็นต้น
• หมู่บ้านจักสาน ตั้งอยู่หมู่ที่ 1-11 ตำบลไร่หลักทอง แต่ที่มีการทำกันมากได้แก่ หมู่ที่ 10 บริเวณวัดเกาะแก้วคลองหลวง อยู่ห่างจากตัวอำเภอตามเส้นทางสายพนัสนิคม-ฉะเชิงเทรา ประมาณ 4 กิโลเมตร แล้วแยกขวาเข้าไปอีก 4 กิโลเมตร การจักสานจำนำไม้ไผ่มาสานเป็นกระเป๋าถือสตรี ตะกร้า กระบุง ชุดเชี่ยนหมาก เป็นต้น มีสีสันและรูปแบบที่สวยงามทันสมัย และสำหรับผู้ที่สนใจสามารถซื้อได้ที่บริเวณร้านค้าด้านหลังตลาดสดเทศบาล (ตลาดเก่า)

อำเภอบ่อทอง
• เขาชะอางค์ อยู่ห่างจากตัวอำเภอไปประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นภูเขาหินปูนลูกโดดอยู่กลางพื้นที่ราบ เป็นแหล่งแร่ทองคำและแร่พลวงที่สำคัญ เขาชะอางค์ประกอบด้วย เขาชะอางค์ทรงเครื่อง เขาชะอางค์ห้ายอด และเขาชะอางค์โอน ซึ่งแต่ละเขาจะมีความสวยงามหลายแห่ง เช่น ถ้ำน้ำ ถ้ำค้างคาว ถ้ำลับแล ถ้ำมังกร
• ถ้ำเขาชะอางค์ทรงเครื่อง ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอบ่อทองไปทางทิศตะวันออก ไปประมาณ 19 กิโลเมตร เป็นถ้ำใหญ่จุคนได้นับพันคน มีหินงอกหินย้อยสวยงาม และมีค้างคาวอาศัยอยู่จำนวนมาก
• ถ้ำเขาชะอางค์ห้ายอด อยู่เลยเขาชะอางค์ทรงเครื่องไปอีก 7 กิโลเมตร เป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีหินงอกย้อยจำนวนมาก ภายในแบ่งเป็นถ้ำเล็กถ้ำน้อยมากมาย

Source : tourismthailand.org